ฉะเชิงเทรา – การเมืองสนามเล็ก ในเขตพื้นที่ ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ร้อนระอุ ก่อนถึงฤดูกาลเลือกตั้งท้องถิ่น หลังทีมบริหาร อปท. ปัจจุบัน ตั้งโต๊ะแถลงสาดโคลนใส่คู่แข่งวุ่น ทำอีกฝ่ายวอนขอความเป็นธรรมจากสังคมและสื่อมวลชน ให้ช่วยนำเสนอความจริงที่ไม่ถูกพูดถึงจากฝ่ายตรงข้ามอย่างรอบด้าน
วันที่ 5 ก.พ.63 เวลา 13.30 น. นายอดุลย์ แสงจันทร์ อดีตนายก อบต.เกาะขนุน 2 สมัย ได้วิงวอนขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน พร้อมกล่าวอ้างว่า เป็นผู้ถูกกลั่นแกล้งทางการเมือง กรณีมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งคนปัจจุบัน ได้ทำการตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมเรียกประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ให้ไปร่วมรับฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับการไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้ครอบครัวของตนใช้สถานที่บ่อลูกรังเก่า
ข่าวน่าสนใจ:
- ขอนแก่น เอาจริงลุยปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่อำเภอเมืองขอนแก่น ได้ผู้ต้องหา 4 ราย หลังชาวบ้านแจ้งเบาะแส
- สยบข่าวลือ สจ.ธรรมชาติ หนีซุกเขมร หลังถูกทนายดังแฉเอี่ยวรีดเว็บพนัน
- ปราจีนบุรี ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ ปั่นปันน้ำใจ ฉะเชิงเทรา-หนองคาย
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
สร้างเป็นบ่อเก็บน้ำเพื่อการเกษตรไว้ใช้ในฤดูแล้ง และยังใช้เป็นแหล่งเก็บน้ำสำรองในชุมชน ให้แก่โครงการประปาหมู่บ้าน ซึ่งจะได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันใน 2 หมู่บ้าน คือ ม.5 และ ม.8 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยอ้างว่าติดปัญหาเกี่ยวกับข้อกำหนดทางกฎหมาย ในการประกาศใช้ผังเมืองใหม่ ของพื้นที่การพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่ขณะเดียวกันผู้บริหารท้องถิ่นรายนี้กลับอนุญาตให้แก่บุตรชายของตนเอง ทำการเปิดบ่อลูกรังใหม่ และทำการขุดดินออกไปขายยังภายนอกพื้นที่ได้
ทั้งที่ครอบครัวของตนนั้น ได้เคยยื่นหนังสือขออนุญาตใช้ประโยชน์ในแปลงที่ดินบ่อลูกรังเก่า จำนวน 80 ไร่ เพื่อใช้ทำเป็นบ่อเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ในระหว่างที่รัฐบาลยุค คสช. ประกาศใช้ ม.44 เมื่อปี 2559 ในการปลดล็อคพื้นที่สีเขียวให้สามารถทำโครงการลักษณะดังกล่าวได้ตามความเหมาะสมของพื้นที่ ก่อนที่จะมีการประกาศผังเมืองใหม่ (อีอีซี) เมื่อช่วงปลายปี 2562 ที่ผ่านมาตามที่ถูกนำมากล่าวอ้าง
และโครงการของบุตรชายตน ที่จะทำการปรับแต่งบ่อลูกรังเก่าที่เพิ่งซื้อต่อมาจากเจ้าของที่ดินรายเดิม ที่เคยขุดดินออกไปแล้ว นำมาปรับทำเป็นบ่อเก็บน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งมีประชาชนใน 2 หมู่บ้านได้ประโยชน์ด้วย คือ ม.5 และ ม.8 จำนวนกว่า 800 ครัวเรือน จะได้มีแหล่งน้ำสำรองไว้ใช้ร่วมกันในฤดูแล้ง โดยที่ปัจจุบันขณะนี้ ในบ่อมีน้ำอยู่ประมาณ 1.6 แสน ลบม.
ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งที่พื้นที่ของที่ดินทั้ง 2 แปลง ระหว่างแปลงที่ดินของบุตรชายผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคนปัจจุบัน จำนวน 80 ไร่ อยู่ในเขตพื้นที่ ม.15 กับพื้นที่ดินบ่อลูกรังเก่าของบุตรชายตนจำนวน 80 ไร่นั้นอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก เพียงประมาณ 1 กม.เศษเท่านั้นในพื้นที่ ม.5 และยังเป็นหมู่บ้านติดกันอีกด้วย
แต่ในการแถลงข่าว และชี้แจงต่อผู้นำชุมชน ของผู้บริหารท้องถิ่นคนปัจจุบันในที่ประชุม เมื่อวันจันทร์ (3 ก.พ.63) ที่ผ่านมานั้น กลับได้ไปนำเรื่องเก่าอีกเรื่องมาแถลง ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จึงอยากวิงวอนขอให้สื่อมวลชน ได้นำเสนอข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งที่ไม่ได้ถูกพูดถึง ทั้งการเลือกปฏิบัติในการอนุญาตให้แต่เพียงบุตรชายตนเองเปิดบ่อลูกรังใหม่และขุดดินออกไปขายได้แต่เพียงลำพัง
และการไม่อนุญาตให้บุตรชายของตนขุดบ่อเก็บน้ำเพื่อใช้ประโยชน์ในบ่อลูกรังเก่า โดยอ้างไปถึงผังเมืองอีอีซี ที่เพิ่งจะประกาศใช้ออกมาเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา (10 ธ.ค.62) ทั้งที่บุตรชายของตนได้ยื่นขออนุญาต เพื่อดำเนินการมาตั้งแต่ในปี 2559 ต่อเนื่องมาจนถึงในปี 2560 ถึง 2 ครั้ง ก่อนการประกาศพื้นที่ผังเมืองใหม่อีอีซี อีกทั้งยังเป็นช่วงบังคับใช้กฎหมายมาตรา 44
ซึ่งสามารถอนุญาตให้มีการใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่สีเขียวให้เป็นไปตามความเหมาะสมได้ จึงเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น ตนเองพร้อมครอบครัว ได้ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจากทางฝ่ายตรงข้ามมาโดยตลอด ในทุกช่องทาง เนื่องจากอีกฝ่ายมองว่าตนเองนั้นจะเป็นคู่แข่ง ในการที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นนายก อบต.เกาะขนุน ในสมัยต่อไป นายอดุลย์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: