กรมส่งเสริมสหกรณ์แจง 3 สหกรณ์ฯหล่มเก่าเอี่ยวทุจริตกองทุนฟื้นฟูฯ สร้างหลักฐานเท็จซื้อขายหนี้กองทุน เปรยอาจมีสหกรณ์ในเพชรบูรณ์อื่นโผล่เพิ่มอีก อธิบดีฯสั่งตรวจสอบทั้งประเทศ
นายณรงค์พล พัฒนศรี ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบสนับสนุนการสหกรณ์ ในฐานะตัวแทนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมแถลงถึงการตรวจสอบการทุจริตกองทุนฟื้นฟูเพื่อเกษตรกรที่จ.เพชรบูรณ์ หลังจากมีเกษตรกรร้องเรียนถูกพนักงานกองทุนฯร่วมกับสหกรณ์ที่อ.หล่มเก่า ปลอมแปลงเอกสารเพื่อไปซื้อขายหนี้ ที่สำนักงานกองทุนฯ เมื่อวันที่ 26 ก.ค.61 ที่ผ่านมาว่า การตรวจสอบที่เพชรบูรณ์พบว่ามีการซื่อขายหนี้ระหว่างกองทุนฯกับ 11 สหกรณ์ สมาชิกทั้งหมด 330 รายวงเงินซื้อขายหนี้ 75 ล้านบาทเศษ ในการตรวจสอบมี 8 สหกรณ์ สมาชิก 132 ราย วงเงิน 31 ล้านบาทเศษ มีการซื้อขายกันจริงไม่มีปัญหา แต่มีเพียง 3 สหกรณ์ซึ่งตรวจพบผิดปกติมีการซื้อขายหนี้ 198 ราย แต่ซื้อขายกันจริงเพียง 71 ราย วงเงิน 4.8 ล้านบาทเศษ ส่วนที่เหลือ 127 ราย วงเงิน 38.5 ล้านบาทเศษมีปัญหา
นายณรงค์พล กล่าวว่า 3 สหกรณ์ที่อ.หล่มเก่าที่มีปัญหา ได้แก่ 1.สหกรณ์ศุภนิมิตหล่มเก่า ผลการตรวจสอบพบว่า สหกรณ์แห่งนี้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนขายหนี้ให้กับกองทุนฯ และไม่เคยมีมติใดที่ให้ซื้อขายหนี้กับกองทุนฯ แต่มีการร่วมกันระหว่างฝ่ายเจ้าหน้าที่กองทุนกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์ปลอมแปลงหลักฐานการเป็นหนี้ของสมาชิก 34 รายเป็นเงิน 6 ล้านบาทเศษ และทำเอกสารปลอมบุคคลภายนอกให้เป็นสมาชิกและเป็นหนี้อีก 37 ราย เงิน 14 ล้านบาท ตอนนี้เลยมีเคสที่เป็นปัญหาอยู่ 71 ราย วงเงิน 20.9 ล้านบาทเศษ ซึ่งในส่วนทางสหกรณ์เองได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ สภ.หล่มเก่าเมื่อวันที่ 23 ก.ค.61 มีการปลอมรายงานการประชุมและไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรับเงินจากกองทุนฯ แต่ที่สหกรณ์ไม่ทราบเรื่องเพราะเป็นการสร้างเอกสารเท็จจริงเพื่อให้เงินไหลเข้าไป
“ส่วนกรมส่งเสริมฯต่อกรณีนี้มีอดีตจนท.สหกรณ์ที่เกิดเหตุ ปัจจุบันมารับราชการอยู่ในสำนักงานสหกรณ์จังหวัดฯ ทางนายทะเบียนสหกรณ์จังหวัดโดยรองนายทะเบียนฯ ใช้อำนาจออกคำสั่งตามกฎหมายให้สหกรณ์แก้ไขข้อบกพร่อง ด้วยการไต่สวนเรื่องนี้ทั้งหมดให้เสร็จภายใน 15 วัน โดยออกคำสั่งเมื่อ 23 ก.ค. 61 ที่ผ่านมา ส่วนพนักงานราชการที่เป็นอดีตเจ้าหน้าที่สหกรณ์เก่านั้น ให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วว่า มีข้อบกพร่องทำให้มีความเสียหายหรือไม่”นายณรงค์พลกล่าว
นายณรงค์พลกล่าวอีกว่า แห่งที่ 2.สหกรณ์การเกษตรภูมิไทหล่มเก่าจำกัด กรณีนี้พบว่าสหกรณ์ขายหนี้ให้สมาชิก 120 ราย มีขายจริง 71 รายเงิน 4.8 ล้านบาท แต่มีไม่จริง 49 รายและไม่ใช่สมาชิกเป็นการสร้างหลักฐานเอาบุคคลภายนอกมาเป็นสมาชิกเป็นเงิน 15 ล้านบาทเศษ มีการสร้างเอกสารอันเป็นเท็จและไปซื้อขายหนี้กับกองทุนฯ ซึ่งก็มีการร่วมมือกันโดยทางฝ่ายเจ้าหน้าที่กองทุนกับเจาหน้าที่สหกรณ์ในลักษณะเดียวกัน ทางนายทะเบียนได้ออกคำสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานให้ทราบภายใน 15 วัน
นายณรงค์พลกล่าวว่า แห่งที่ 3.สหกรณ์มะขามหวานหล่มเก่าจำกัด กรณีนี้ประธานกรรมการสหกรณ์ร่วมกับสมาชิก ปลอมแปลงเอกสารขายหนี้ให้กับกองทุนฯขายหนี้ให้ 7 ราย เงิน 2.5 ล้านบาทเศษ ซึ่งสหกรณ์ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ สภ.หล่มเก่า กรณีปลอมรายงานการประชุมเพื่อไปเปิดบัญชีธนาคาร เพื่อรับเงินกองทุนฯ ในส่วนทางราชการมีการไต่สวนเบื้องต้นก็มีการยอมรับว่าปลอมแปลงเอกสารและขายหนี้ให้กับกองทุนฯจริง นายทะเบียนจึงออกคำสั่งให้ไต่สวนและสอบสวนให้เสร็จภายใน 15 วัน
“จากเหตุที่เกิดขึ้นทราบข่าวเบื้องต้นอาจจะมีอีกใน จ.เพชรบูรณ์ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ ขณะเดียวกันในทางนโยบายทางอธิบดีฯได้สั่งการสำหรับสหกรณ์ที่มีการซื้อขายหนี้ไปแล้ว 21,321 ราย ให้ตรวจสอบย้อนหลังกลับไปทั้งหมดว่าจะมีกรณีเช่นนี้อีกหรือไม่ ซึ่งได้ขอข้อมูลทางรองเลขากองทุนฯก็ได้รับการตอบรับ ซึ่งไม่ใช่แค่เพชรบูรณ์จังหวัดเดียวแต่เป็นทั่วทั้งประเทศ”นายณรงค์พลกล่าว
