นครพนม – วันที่ 31 ก.ค.61 สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนครพนม ในขณะนี้ยังไม่คลี่คลาย โดยมวลน้ำจากหนองหารจังหวัดสกลนครถูกปล่อยลงมากว่าวันละ 20 ล้าน ลบม. ทำให้พื้นที่รับน้ำทั้งลำน้ำก่ำและลำน้ำบังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ริมฝั่ง ตั้งแต่ อ.วังยาง ถึง อ.ธาตุพนม ซึ่งอำเภอวังยางเป็นจุดแรกของจังหวัดนครพนม ที่รองรับมวลน้ำจากสกลนคร นายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอวังยาง พร้อมด้วย ว่าที่ร.ต.อัคเดช นาคสุวรรณ ปลัดอาวุโส นายเกษม มณีวรรณ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านฯ ออกตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากลำน้ำก่ำเอ่อล้นตลิ่ง ทำให้ถนนหลายสายไม่สามารถผ่านไปมาได้ การคมนาคมเป็นไปด้วยความลำบาก จึงได้ทำการปิดช่องทางจราจร และกำชับให้ผู้นำชุมชนแจ้งเตือนราษฎรในพื้นที่ให้ระมัดระวังการสัญจรไป – มา ทั้งนี้ทางอำเภอได้แจ้งเตือนให้กำนัน -ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน ติดตามข่าวสารสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด หากมีปัญหาอุปสรรค ให้รีบรายงานอำเภอทราบโดยทันที
ขณะเดียวกัน นายสมชาย วิทย์ดำรงค์ ผวจ.ฯ ได้เขียนเฟซบุ๊คให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ทำงานช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมว่า “น้ำท่วมเป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถห้ามเกิดได้ แต่เมื่อเกิดแล้ว ต้องรวมใจกันช่วยเหลือ โดยเฉพาะปีนี้ น้ำมากเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปี จังหวัดได้ประกาศเตือนและจัดตั้งศูนย์และเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนกำลังให้ความช่วยเหลือทั้งระดับจังหวัดและอำเภอแล้ว ที่ขอให้ดำเนินการตอนนี้คือ มาตรการแรกของประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำทุกสาย คือการเตือนภัยให้อพยพขนย้ายคน สิ่งของ สัตว์เลี้ยง ขึ้นที่สูง ประการที่สอง น้ำโขงปีนี้สูงมาก ลุ่มน้ำต่างๆจะระบายลงได้น้อยและช้า ดังนั้นอาจเกิดท่วมขังนาน ให้เตรียมสิ่งของอุปโภคบริโภคให้เพียงพอ โดยประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ท้องถิ่น อำเภอ หรือหน่วยงานต่างๆ สามคือต้องมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคและช่วยเหลือพึ่งพากัน ผมและทีมนครพนมจะติดตามใกล้ชิด พื้นที่ใดเกินขีดความสามารถของพื้นที่ จังหวัด กาชาด และหน่วยงานต่างๆจะลงให้ความช่วยเหลือทันทีครับ ส่วนการรับบริจาค หากมีความจำเป็นจะแจ้งประชาสัมพันธ์ต่อไปขอบคุณและขอให้ผ่านพ้นอุทกภัยนี้ไปให้ได้ครับ”
ต่อมา โครงการชลประทานนครพนม รายงานระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่สถานีตรวจวัดชุมชนหนองแสง เขตเทศบาลเมืองนครพนม ระดับน้ำ 11.78 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.22 เมตร (ระดับตลิ่ง 13.00 เมตร) ส่วนสถานีแม่น้ำสงคราม ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม ระดับน้ำ 12.91 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.59 เมตร (ระดับตลิ่ง 14.50 เมตร)
โดยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่แถบลุ่มน้ำสงคราม ระดับน้ำยังมีความสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ลำน้ำสงครามเริ่มเอ่อล้น ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ นาข้าว และบ้านเรือนของชาวบ้านปากอูน หมู่ที่ 4 เขตเทศบาลตำบลศรีสงคราม ที่อยู่ติดกับลำน้ำอูน เป็นรอยต่อไหลลงสู่ลำน้ำสงคราม แม่น้ำสาขาสายหลักที่เชื่อมไปยังแม่น้ำโขง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า มีบ้านเรือนของชาวบ้านเกือบ 10 หลังคาเรือนที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำสงครามเอ่อท่วม หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีกก็จะทำให้มวลน้ำไหลเข้าบ้าน ชาวบ้านซึ่งอยู่ในจุดเสี่ยงต่างเตรียมพร้อม เฝ้าระวัง เก็บสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงได้เร่งอพยพเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงการเกษตร วัว ควาย ไปเลี้ยงไว้ในพื้นที่ปลอดภัย เพราะเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และเก็บสต๊อกหญ้าอาหารสัตว์ไว้สำรอง เพื่อป้องกันการขาดแคลนหากเกิดน้ำท่วมเป็นเวลานาน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นางจำเรียง คำสาย เกษตรกรผู้ปลูกเมล่อนชนิดสวนปิด จำนวน 5 โรง อยู่ริมแม่น้ำโขงบ้านนาถ่อนท่า หมู่ 13 ต.นาถ่อน อ.ธาตุพนม ปีนี้ลงทุนไปประมาณ 600,000 บาท ถูกมวลน้ำมหาศาลไหลเข้าท่วม และคาดว่าผลผลิตจะเสียหายเนื่องจากติดเชื้อโรค
