มุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ลงพื้นที่ตรวจสอบตลาดอินโดจีน ชั้นใต้ดิน ซึ่งน้ำโขงเอ่อเข้าท่วมร้านค้า ระดับน้ำโขงล่าสุดอยู่ที่ 12.61 เมตร ระดับน้ำวิกฤตอยู่ที่ 12.50 เมตร เฉลี่ยระดับเพิ่มสูงขึ้นชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร
วันที่ 31 ก.ค. 61 ดร. ไพฑูรย์ รักษ์ประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ข้อมูลจากศูนย์อุทกวิทยามุกดาหาร รายงานระดับประเทศและระบบรายงานของ MRC ซึ่งจะได้รู้ว่าระดับน้ำอยู่ที่เท่าไหร่ และจะมีสถานีวัดระดับน้ำย่อยที่ศาลาเรารักมุกดาหาร ที่อำเภอหว้านใหญ่ และดอนตาล ทั้งหมดอยู่ภายใต้บริหารของสถานีอุทกวิทยามุกดาหาร ขณะนี้ที่มุกดาหารฝนหยุดตกแล้ว ปริมาณน้ำยังเพิ่มสูงขึ้น และสะสมอยู่ที่ 2 ฝั่ง เรียกว่า น้ำไซด์โฟร์ กำลังไหลลงเข้าสู่ในพื้นที่ของแม่น้ำโขง ซึ่งจะมีทั้งเขื่อนน้ำเทิน 2 ใน สปป.ลาว ซึ่งตอนนี้ก็ระบายน้ำออก น้ำตอนี้เติมเข้ามาในแม่น้ำโขง ทำให้ระดับน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ในพื้นที่ทางตอนบนฝนยังตกลงมาอยู่ ยังมีหย่อมความกดอากาศที่เคลื่อนตัวอยู่บริเวณดังกล่าว ต้องเฝ้าระวังน้ำเฉลี่ยชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร ระดับน้ำเมื่อวานห่าง 18 เซนติเมตร วันนี้ขึ้น 12.61 เมตร เกินระดับวิกฤต 12.50 เมตร เลยจุดวิกฤตไปแล้ว
ในตอนนี้พื้นที่ทางตอนบน ซึ่งเป็นน้ำที่จังหวัดสกลนครฝนตก ไหลเข้ามาในพื้นที่ดงหลวง และห้วยบางทรายบางส่วน และอีกส่วนไปที่ห้วยบังอี๋ แม่น้ำ 2 สายได้รับน้ำจากเทือกเขาภูพานน้อย ไหลมาลงที่จังหวัดมุกดาหาร ทำให้กลายเป็นน้ำป่าที่ไหลหลาก และทั้ง 2 ฝั่งเป็นถนน อีกฝั่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นถนนสูงต่ำไปตามเทือกเขา ตรงไหนที่เป็นลุ่มต่ำน้ำเข้าท่วมถนนเป็นตอน ๆน้ำมีขึ้น ๆ ลง ๆ ตามที่ฝนตกลงมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนการเตือนภัยชุมชนตามริมฝั่งแม่น้ำโขง มอบให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นมาตรการเฝ้าระวัง เช่น ในเรื่องของการปักธงแดง สัญลักษณ์ตามจุดต่าง ๆ และก็ในส่วนต่าง ส่วนทางทาโดยสารใช้มาตรการความปลอดภัยสูงสุด ต้องใส่ชูชีพ จำกัดจำนวนผู้โดยสารตามที่กำหนดไว้ และในเรื่องของน้ำหนักสิ่งของบรรทุกในเรือ นอกจากนั้นได้มอบหมายให้นายยกฯ ไปดูเรื่องอพยพชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มต่ำ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ส่วนสัญญาณที่ส่งมาทางเรา หน่วย MRC เป็นหน่วยบริหารจัดการลุ่มน้ำโขง ประกาศเตือนให้ตัวสีแดง และแขวนป้ายตัวสีแดง สำหรับจังหวัดมุกดาหารเตือน 3 วันต่อเนื่อง และในวันที่ 4 ไปดูที่ไซด์โฟร์ที่บริหารที่ลุ่มน้ำ ตั้งแต่ประเทศจีน ลาว ถ้าน้ำขึ้นจะปะทะแนวไหน ต้องเฝ้าระวัง 3 วัน ส่วนพื้นที่ชั้นในให้เฝ้าระวัง และให้ไปดูด้านการเกษตร ที่ได้รับความเสียหาย ต้องเตรียมความพร้อมทั้งคน เครื่องมือ และระบบสื่อสาร
ทั้งนี้เนื่องจากในพื้นที่แปรซิฟิก ตอนนี้พายุพึ่งก่อตัวของพายุลูกที่ 16 ซึ่งค่าเฉลี่ยของประเทศไทยจะประมาณ 25 ลูก ยังเหลืออีก 9 ลูก ถ้าพายุทีเหลือเติมมายังอ่าวตั่งเกี๋ยอีก ปริมาณน้ำต้องมากขึ้น ฉะนั้นต้องเฝ้าระวังกันต่อไป..
