นครศรีธรรมราช:”ล้ง”รับซื้อมังคุดคาดการปลายเดือนกันยายน 2561 ผลผลิตของเกษตรกรคงหมด เผยนายทุนปล่อยเงินรับซื้อไปแล้วกว่า 50 ล้านบาทในหนึ่งเดือน เตรียมพร้อมแย่งชิงผลผลิตจาก “ล้ง”ใหญ่ๆช่วงผลผลิตลดลง เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากราคาผลผลิต
นายสมคิด อาจวิชัย ผจก.ฝ่ายรับซื้อ บ.จินป่ายเว่ย (ไทยจีนเทรดดิ้งจำกัด) ซึ่งเป็นแผง “ล้ง” รับซื้อมังคุดจาก จ.จันทบุรีที่มาทำการรับซื้อผลมังคุดจากเกษตรกรชาวสวนในพื้นที่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรรีธรรมราช เปิดเผยถึงสถานการณ์การรับซื้อมังคุดในขณะนี้ว่า ปริมาณผลผลิตได้ลดลงไปกว่า 30% โดยตลอด 1 เดือนเต็มที่ผ่านมา ช่วงต้นฤดูกาล ต้นเดือน กรกฎาคม 2561 ที่ทาง”ล้ง”ได้เข้ามารับซื้อผลมังคุดจากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีผลผลิตที่ผ่านกับทาง”ล้ง”ออกสู่ตลาดไปแล้วกว่า 1,800 ตัน ไม่รวมล้งใหญ่ๆกว่า 10 “ล้ง” และ”ล้ง”เล็กๆอีกจำนวนมากที่เข้ามารับซื้อและนำไปส่งออก ซึ่งในแต่ละวันที่ทาง”ล้ง”สามารถรับซื้อได้เป็นปริมาณมากถึง 40-60 ตัน/วัน ที่ผ่านมาเฉพาะ”ล้ง”แห่งนี้มีเงินออกไปประมาณ 1.5 ล้านบาท/วัน นั่นหมายถึงรายได้ที่เกษตรกรได้รับในช่วงฤดูผลไม้ในปีนี้ อย่างไรก็ตามคาดการไว้ว่าในช่วงต้นเดือนกันยายน 2561 ผลผลิตจะหมดลงในที่สุด
“ปริมาณการรับซื้อต่างจากช่วงแรกๆฤดูผลผลิต กว่า 30% เพราะคุณภาพของผลมังคุดลดลง ไม่ได้มาตรฐานที่กำหนดไว้ จากเดิมจะเลือกซื้อเพียงแค่เบอร์เดียว คือขนาดใหญ่ ผล 80 กรัมขึ้นไป ลักษณะผิวมันรวม ปัจจุบันต้องมีการปรับเปลี่ยนมารับซื้อขนาดผลที่เล็กลง ขนาด 60 กรัม เพื่อให้ได้จำนวนปริมาณการส่งออกที่เท่าเดิม คาดการว่าน่าจะ ไม่เกิน 10 วัน ฤดูผลไม้คงจะเบาบางลง ทาง “ล้ง” คงอาจจะต้องลดปริมาณการรับซื้อลงตาม เพราะจะส่งผลถึงราคาการรับซื้อ ที่มีการดีดตัวของราคาที่สูงขึ้น”
นายสมคิด กล่าว เมื่อถึงช่วงนั้นจะเป็นผลดีกับเกษตรกรผู้ปลูก เนื่องจากราคาผลผลิตจะเป็นไปตามกลไกของตลาด demand supply ของน้อยลงราคาก็สูงขึ้น แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นกับทางฝ่าย”ล้ง”ในแต่ละ”ล้ง”เอง เพราะต้องมีการแข่งขันสูงเพื่อที่จะแย่งชิงผลผลิตมาเป็นของตัวเองให้ได้เพื่อส่งออก
สำหรับสถานการณ์มังคุดพบว่าหลังจากที่มังคุดนอกพื้นที่หมด เหลือเพียงมังคุดในพื้นที่จึงทำให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ โดยคาดว่าหลังจากนี้ราคาผลผลิตมังคุดจะมีราคาสูงขึ้นกว่าเดิม แต่สิ่งที่เกษตรกรในหลายพื้นที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ กลับไม่ใช่ราคาผลผลิต กับเป็นผลกระทบที่เกิดจากภาวะแห้งแล้งที่เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานาน มังคุดขาดน้ำ ทำให้ช่วงปลายของฤดูกาลไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาจำหน่ายได้ เนื่องจาก ผลมังคุดไม่โต แห้งเหี่ยวเพราะขาดน้ำ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “มังคุดท้ายรูด” อาจส่งผลให้ปริมาณของผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดหมดก่อนกำหนดที่ได้คาดการณ์ไว้ในช่วงต้นเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และจะมีผลผลิตอีกทีของเกษตรกรบางรายคือผลผลิตนอกฤดูกาล ซึ่งจะเป็นช่วงที่ราคาผลมังคุดกลับมามีราคาที่แพงสูงขึ้นอีกครั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: