นครพนม – สรรพสามิตนครพนม แจง ลานเบียร์เถื่อนเปิดเย้ยกฎหมาย ในงานนมัสการพระธาตุพนม ไม่มีอำนาจสั่งปิด !!
กรณี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองฯ ร่วมกับตำรวจ สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม จับกุมผู้ประกอบการลานเบียร์ จำนวน 3 ราย ที่เปิดจำหน่ายในงานนมัสการพระธาตุพนม ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 1-9 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เขตเทศบาลตำบลธาตุพนม โดยผู้ค้าเหิมเกริมเปิดลานเบียร์เย้ยกฎหมาย จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม สุรา พร้อมมีการแสดงดนตรี ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือวันมาฆบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 (วันที่ 8 กุมภาพันธ์) จึงเป็นการฝ่าฝืนตามประกาศของสำนักนายกรัฐมนตรี ที่มีคำสั่งห้ามจำหน่ายสุรา หรือเปิดกิจการสถานบันเทิง(ร้านเหล้า) ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ขณะจับกุมพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ประมาณ 50 คน เข้ามานั่งกินดื่มในลานเบียร์ทั้ง 3 แห่งอีกด้วย
ซึ่งผู้ประกอบการลานเบียร์เถื่อน อ้างได้ขออนุญาตกับทางสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนม สาขาธาตุพนม พร้อมโชว์ใบเสร็จของสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนม สาขาธาตุพนม ออกมายืนยัน แต่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นใบเสร็จรับเงินค่าปรับในข้อหาขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 5,000 บาท ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 อีกทั้งยังอ้างต่อว่าเป็นการปรับแบบเหมาจ่าย
นอกจากนี้ผู้ประกอบการทั้ง 3 ราย อ้างว่ามีการขออนุญาตอย่างถูกต้อง แต่เมื่อตรวจสอบพบเป็นสถานประกอบการลานเบียร์เถื่อน ที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งรวม 6 ข้อหา คือ 1. จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันหรือเวลาที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด 3.ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. จำหน่ายหรือแลกเปลี่ยน/สุรา/บุหรี่แก่เด็ก 5. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลดังต่อไปนี้ บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และ 6. ยุยง ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุด วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 นางสาว นัยนา พิสุทธิรัตน์ สรรพสามิตพื้นที่นครพนม สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นครพนม ได้ออกมาชี้แจงรายละเอียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า การตรวจจับลานเบียร์ของฝ่ายปกครองและตำรวจ เมื่อคืนวันที่ 8 กุมภาพันธ์ โดยผู้ประกอบการอ้างได้จ่ายค่าปรับแบบเหมาจ่ายแก่สรรพสามิตพื้นที่นครพนม สาขาธาตุพนม ไปแล้วนั้น ไม่เป็นความจริงอย่างที่เป็นข่าว จึงขอชี้แจงเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ด้วยตามกฎกระทรวง การอนุญาตขายสุรา พ.ศ.2560 ลงวันที่ 12 กันยายน 2560 และแบบคำขออนุญาตขายสุรา ตามมาตรา 155 แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 “ข้อ 4 ผู้ที่จะได้รับอนุญาตขายสุรา(ประเภท 2) สำหรับการขายสุราทุกชนิด ครั้งหนึ่งจำนวนต่ำกว่า 10 ลิตร จะต้องไม่ใช้สถานประกอบการที่มีลักษณะ ดังต่อไปนี้เป็นสถานประกอบการขายสุรา คือ
1.ที่ตั้งสถานศึกษาที่จัดการศึกษาในระบบกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ รวมทั้งบริเวณที่ต่อเนื่องและติดกับสถานที่ดังกล่าว
2.ที่ตั้งวัด มัสยิด วัดบาทหลวง หรือสถานที่ประกอบศาสนกิจในนิกายหรือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง รวมทั้งบริเวณที่ต่อเนื่องและติดกับสถานที่ดังกล่าว 3.ที่ตั้งสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงตามกฎหมายว่าด้วยควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง รวมทั้งบริเวณที่ต่อเนื่องและติดกับสถานที่ดังกล่าว 4.สถานที่ที่เคยเป็นสถานประกอบการขายสุราของผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต เว้นแต่ได้พ้นกำหนดระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่เพิกถอนใบอนุญาต 5.สถานประกอบการขายสุราของผู้ที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตและอยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต และ 6.สถานที่ต้องห้ามขายสุราตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกฎหมายอื่น
ดังนั้น ตามที่ระบุไว้ในกฎหมายการจำหน่ายสุราในบริเวณตามที่กล่าว ตามข้อ 1 รวมทั้งที่สาธารณะที่ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งจะเป็นร้านค้าทั่วไป หรือมีลักษณะเป็นลานเบียร์สด และมีการแสดงดนตรีสดในงานประเพณีต่างๆ(ไม่เข้าลักษณะสถานบริการที่ต้องจดทะเบียนสรรพาสามิต) ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายผิดตามข้อหาขายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 155 วรรคหนึ่ง มีอัตราโทษที่กำหนดให้เปรียบเทียบปรับ จำนวน 5,000 บาท และพนักงานเจ้าหน้าที่จะแจ้งทุกครั้งว่าไม่มีสิทธิขอรับใบอนุญาตจำหน่ายสุราและไม่มีสิทธิจำหน่ายสุราได้ตามกฎหมายต่อไป ขอให้เลิกขาย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการสั่งปิดร้านทันที ซึ่งไม่ได้เป็นอำนาจของสรรพสามิตที่จะไปสั่งปิดลานเบียร์เถื่อนเหล่านั้น ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาสำนักงานสรรพาสามิตพื้นที่นครพนม จึงต้องออกมาปกป้องลูกน้องที่ตั้งใจทำงาน
