อุบลราชธานี – จังหวัดอุบลฯ ลดความเหลื่อมล้ำ ทางการศึกษาร่วมกับ กสศ.และ 6 ภาคีเครือข่าย จัดประชุมโครงการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อ ความเสมอทางการศึกษา และลงนามความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
วันที่ 12 ก.พ. 2563 จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ กสศ.(กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) และ 6 ภาคีเครือข่าย จัดการประชุมโครงการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอทางการศึกษาและลงนามความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงานศูนย์พัฒนาเด็ก 17 แห่ง เพื่อบูรณาการการทำงานและวางแผนความเสมอภาคทางการศึกษาลดวามเหลื่อมล้ำในพื้นที่ ณ ห้องประชุมพรหมวรราช ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
โดยโครงการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอทางการศึกษาเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง กสศ.(กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) และ 1)มูลนิธิพิทักษ์ธรรมชาติเพื่อชีวิต 2)กรมอนามัยศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี 3)องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี 4)ศึกษาธิการจังหวัดอุบลราชธานี 5)มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี 6)มูลนิธิประชาสังคม อุบลราชธานี
ทั้งนี้โครงการมีเป้าหมายดำเนินงาน 1)พัฒนาความเข้มแข็งของกลไกสร้างความเสมอภาคการศึกษาของจังหวัด ในการช่วยเหลือดูแลกลุ่มเป้าหมายด้วยเครือข่ายความร่วมมือในพื้นที่ 2)พัฒนาให้เกิดระบบข้อมูลสารสนเทศเพื่อการวางแผนลดความเหลื่อมล้ำ 3)พัฒนาตัวอย่างเพื่อสร้างโอกาสทางศึกษาของเด็กปฐมวัยในครอบครัวที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และเยาวชนนอกระบบการศึกษา
ด้านการดำเนินโครงการตั้งแต่กรกฎาคม 2562 ได้ทำการเลือกพื้นที่นำร่องทั้งหมด 5 อำเภอประกอบด้วย อำเภอวารินชำราบ,อำเภอเดชอุดม,อำเภอนาจะหลวย,อำเภอน้ำยืนและอำเภอบุณฑริก โดยมีแผนการสำรวจข้อมูลเด็กปฐมวัยในศูนย์พัฒนาการเรียนรู้และสำรวจข้อมูลเด็กและเยาวชนนอกระบบ พร้อมลงพื้นที่เพื่อเตรียมทำแผนให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจากการสำรวจเด็กและเยาวชนนอกระบบ 1,837 คน พบว่าเด็กเยาวชนกว่า 443 คนมีความต้องการศึกษาต่อ โดยสิ่งที่อยากให้ช่วยเหลือคือ ทุนการศึกษา,ค่าครองชีพ,การเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน ตามลำดับ
ส่วนแผนการดำเนินงาน ศพด.(ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก) ทั้ง 17 แห่ง ทางโครงการมีเงินสนับสนุนการทำงาน 15,000 บาทต่อศูนย์ พร้อมทั้งมีการออกแบบหลักสูตรในการฝึกอบรมและอบรมเรื่องพัฒนาศูนย์เด็กเล็กเพื่อพัฒนาศักยภาพที่คล้องความต้องการของพื้นที่ กับกรมอนามัย ศูนย์อนามัยที่ 10 อุบลราชธานี
ทางด้านการพัฒนาให้ความช่วยเหลือเด็กนอกระบบ มีการวางแผนการช่วยเหลือโดยการเก็บข้อมูลเชิงลึกของแต่ละกรณี พร้อมวิเคราะห์ความต้องการของเด็กและเยาวชนนอกระบบ เช่น การเตรียมพร้อม การศึกษาและการประกอบอาชีพ เป็นต้น
สฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประธานการประชุมฯกล่าวว่าอยากให้ กสศ. และ 6 ภาคีเครือข่าย ร่วมกันพัฒนาระบบให้เกิดความแม่นยำยกระดับมาตรฐานการเติมโอกาสทางการเรียนรู้พร้อมบูรณากลไกสนับสนุนพัฒนาความเสมอภาคทางการศึกษาลดความเหลื่อมล้ำในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ทางจังหวัดเองก็มีแผนที่จะจัดทำโครงการ “คนอุบลไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรในจังหวัดต่อยอดความรู้เป็นนวัตกรรมใหม่ให้กับจังหวัดอุบลราชธานี
ชิษณุพงศ์ สุนทรพาณิชย์ เรียบเรียง
