เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 15 ก.พ.63 พ.ต.ท.ประวิง จิณาพันธ์ พนักงานสอบสวน สภ.สรรคบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่บริเวณหมู่ 7 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี (ใกล้เคียงวัดกลาง) จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมแจ้งรถดับเพลิงเทศบาลตำบลห้วยกรด เข้าระงับเพลิง
ที่เกิดเหตุ บ้านเลขที่ 11 หมู่ 7 ต.ห้วยกรด เป็นบ้านปูนชั้นเดียว ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง มีรถกระบะมิตซูบิชิจอดภายในบ้าน ถูกไฟไหม้เสียหาย 1 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต โดยมีรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ 3 คัน คือรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลแพรกศรีราชา เทศบาลตำบลห้วยกรด อ.สรรคบุรี และเทศบาลตำบลบางหลวง อ.สรรพยา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท
นางเที้ยม ไทยยิ้ม อายุ 81 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ปกติอยู่อยู่บ้านนี้กัน 4 คนกับหลานๆ แต่วันนี้ อยู่กัน2คน ตื่นมาตอนเช้ามืดกำลังจะหุงข้าวใส่บาตร เกิดไฟไหม้จากอะไรไม่รู้ จึงตะโกนเรียกหลาน และชาวบ้านให้มาช่วยเสียงก็ไม่ค่อยมี ตนเองรีบไปคว้าถังตักน้ำมาจะดับไฟ หลานวัย 13 ปี ดึงตัวออกมาบอกว่าไม่ทันแล้ว ไฟโหมแรงมาก ชาวบ้านจึงอุ้มตนออกมาไว้ที่หน้าบ้าน มีเพื่อนบ้านมาช่วยนำรถเก๋งออกมาได้ 1 คัน ส่วนกระบะถูกไฟไหม้อยู่ในบ้าน นอกจากนี้ยังมีเงินสด 20,000 บาท และทองคำของตนเอง 1 บาท และยังมีทองคำของหลานฝากไว้อีกจำนวนหนึ่ง ไม่สามารถนำออกมาได้ถูกไฟไหม้หมด
นายรำพัน จุ้ยแจ้ง อายุ 52 ปี และ นายรัฐธรรมนูญ จุ้ยแจ้ง อายุ 21 ปี สองพ่อลูกเพื่อนบ้านที่เข้ามาช่วย เล่าว่า ตนและลูกชาย มาช่วยพายายออกจากบ้าน นำรถจักรยานยนต์ออกไป 3 คัน แล้วช่วยกันทุบกระจกรถเก๋ง ปลดเกียร์ว่างแล้วช่วยกันดันรถออกจากตัวบ้าน ส่วนรถกระบะนั้นเอาออกไม่ทันเพราะความร้อนมาถึงแล้ว สำหรับการตัดสินใจทุบกระจกนำรถเก๋งออกมาก่อน เพราะคิดว่าอาจจะติดแก๊สเกรงเกิดอันตราย
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้เร่งสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป
