ตรัง หึงโหด สามีก่อเหตุแทงภรรยาถึง 14 แผลก่อนที่ตัวเองจะนำตัวภรรยาส่งโรงพยาบาลแล้วขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเสียชีวิต ขณะที่สามีใจโหดให้กำนันพาเข้ามอบตัวในช่วงบ่ายวันนี้ อ้างทำไปเพราะความหึงหวง
หึงโหด วันนี้ 15 ก.พ.2563 เวลา 13.00 น. พ.ต.ท อิสรพงศ์ จินา ผู้กำกับการสภ.คลองเต็ง อ.เมืองตรัง ได้รับมอบตัวนายสมคิด แซ่ตั๋น อายุ 41 ปี ชาวตำบลเขาไม้แก้ว อ.สิเกา จ.ตรัง หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดปลายแหลมจ้วงแทง น.ส ภุมมา คุรุปัญญา อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 2 รวม 14 แผล เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
เหตุเกิดบริเวณศาลเจ้าฮังไห้ยี่ พื้นที่บ้านคลองเต็ง อ.เมือง จ.ตรัง โดยหลังแทงภรรยาจนบาดเจ็บสาหัสแล้ว นายสมคิดฯ ผู้ต้องหาได้นำภรรยาส่งโรงพยาบาลตรังด้วยตัวเอง แล้วรีบขับรถยนต์กระบะออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะอยู่ในห้องฉุกเฉินนั้นภรรยายังมีสติ สามารถบอกชื่อบิดามารดาและบ้านของตนอยู่ที่ไหน หมายเลขโทรศัพท์อะไร แต่เนื่องจากเสียเลือดมาก และบาดแผลถูกบริเวณปอดและม้าม ทำให้เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวน สภ.เมืองตรัง จึงได้เร่งติดตามผู้ต้องหาตลอดทั้งคืนแต่ไม่พบ จนกระทั่งเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (15 ก.พ.63) นายวิชัย จีนซ้าย กำนันตำบลนาท่ามใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ได้ประสานกับผู้กำกับการ สภ.คลองเต็ง เพื่อที่จะนำผู้ต้องหาเข้ามอบตัว พร้อมด้วยของกลาง อาวุธมีด เสื้อผ้าเปื้อนเลือด และรถยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า
ทำไปเพราะความหึงหวงเนื่องจากระแวงว่าภรรยาคนที่ 2 จะหนีไปมีชายอื่น เพราะระยะหลังเริ่มตีตัวออกห่าง และทราบว่ามีชายหนุ่มมาติดพัน จึงไปรับมาเคลียร์ปัญหาในคืนแห่งความรัก แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ตนจึงใช้มีดแทงผู้ตายรวม 14 แผล อ้างบันดาลโทสะ แต่หลังจากที่มีสติจึงได้นำตัวภรรยาส่งโรงพยาบาลตรังและได้โทรศัพท์ไปหาพี่สาวของผู้ตายให้ไปดูภรรยาที่โรงพยาบาลตรังด้วย ก่อนที่ตัวเองจะหลบหนีไปอยู่บ้านญาติ ซึ่งตนเองเสียใจมาก เพราะคบหากันมาเกือบ10 ปีแล้ว ซึ่งตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ส่วนที่สมาคมฮกเกี้ยน ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพของ น.ส. ภุมมา คุรุปัญญา ผู้ตาย ญาติ ๆ ยังอยู่ในความโศกเศร้า โดยนายสมบูรณ์ คุรุปัญญา อายุ 63 ปี บิดาของผู้ตายกล่าวด้วยน้ำตานองหน้า และยอมรับว่า ที่ผ่านมารู้ว่าลูกสาวคบอยู่กับผู้ต้องหา ซึ่งมีภรรยาแล้ว แต่ในฐานะเพื่อน เมื่อเลื่อนมาเป็นสามี จึงไม่ได้สอบถามเพราะถือว่าเรื่องส่วนตัวของลูก เพราะลูกโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และไม่ทราบว่าลูกมีปัญหาอะไรกับผู้ต้องหา
โดยคืนเกิดเหตุตนนึกว่าลูกสาวนอนอยู่ในห้อง แต่พอตกดึกมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตรัง โทรศัพท์มาบอกว่าลูกสาวของตนเสียชีวิตแล้ว ตนรู้สึกตกใจมาก ไม่รู้ว่าผู้ต้องหาแวะมารับลูกสาวออกไปตอนไหน และรู้สึกเสียใจมากเพราะที่ผ่านมา ตนเลี้ยงลูกไม่เคยทุบตีลูกแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งการถูกแทงถึง 14 แผล นับว่าเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก ตนรับไม่ได้และยังตัดสินใจไม่ได้ว่า หากผู้ต้องหามาขอขมาศพของลูกสาว ตนจะรับได้หรือไม่
