นครพนม – วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.ชยพล กู่ชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม รับแจ้งเหตุมีคนจมน้ำเสียชีวิต ริมชลประทานบ้านแพง หมู่ 7 ต.รามราช จึงประสานแพทย์เวร รพ.ท่าอุเทน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กู้ภัยนครพนม กู้ภัยศรีสัตตนครพนม และรถกู้ชีพ อบต.อาจสามารถ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นริมตลิ่งสันเขื่อนชลประทานยาวประมาณ 100 เมตร ห่างถนนทางหลวงชนบทสายนาหัวบ่อ-รามราช ราว 100 เมตร ริมตลิ่งมีความกว้าง 50 เมตร น้ำลึก 50 ซ.ม. พบศพนายแสวง แพงดี อายุ 72 ปี อาชีพหาปลา เป็นชาวบ้านหนองแวง หมู่ 9 ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม นอนหงายเสียชีวิต ในสภาพศพสวมกางเกงขาสั้นสีครีม สวมเสื้อแขนยาวสีเทา ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล หรือร่องรอยการทำร้ายแต่อย่างใด สันนิษฐานเสียชีวิตกว่า 1 ชั่วโมง
ห่างออกไปอีก 100 เมตร พบเสาไม้ไผ่ปักห่างกัน 20 เมตร และมีตาข่ายอวนที่ใช้หาปลาของผู้ตายตกอยู่ และยังพบรถไถนาเดินตามพ่วงล้อลาก ในรถพบอุปกรณ์หาปลาหลายชนิด รวมถึงข้องใส่ปลา ภายในมีแค่ยาเส้นและไฟแช็คของผู้ตาย แต่ไม่พบปลาแม้แต่ตัวเดียว
ข่าวน่าสนใจ:
- พะเยา ตร.จับติวเตอร์สาวฉ้อโกง 3 หมายจับนครสวรรค์ หลังผู้ปกครองรวมตัวแจ้งความจับ
- นครพนมก้าวสู่ยุคดิจิทัลสุขภาพ! อบจ.นครพนม ผุดโครงการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการแพทย์ทางไกล
- พะเยา สองพ่อลูกซิ่งบิ๊กไบค์ป้ายแดงเสียหลักชนหลักลายดับคาที่ทั้งคู่
- ททท. เชียงราย เชิญชม ช็อป ชิมงาน “Lanna Winter Wonderland” ตื่นตา ตื่นใจกับการประดับไฟสุดอลังการ สนุกสนานกับ 10 จุดแลนด์มาร์ก ฟรี
นายสุรพัน นนทะวงษา อายุ 59 ปี คนขับรถไถนาเดินตาม เพื่อนบ้านผู้ตาย เปิดเผยว่าคุณตาแสวง ผู้ตาย ยังครองตัวเป็นโสดไม่มีเมียและลูก ก่อนเกิดเหตุตนขับรถไถคันนี้บรรทุกเพื่อนบ้านเป็นหญิง 2 คน ชาย 3 คน รวม 5 คน ออกจากบ้านเพื่อมาหาปลาไปประกอบอาหารบริเวณจุดเกิดเหตุ ในขณะที่ผู้ตายนำตาข่ายอวนไปดักปลาช่อน ด้วยการปักหลักเสาไม้ไผ่ลงน้ำที่ลึก 50 ซ.ม. เพื่อเป็นที่ขึงตาข่าย ปรากฏว่าเกิดอาการหน้ามืดวูบฟุบล้มตนและ เพื่อนบ้านที่มาด้วยกัน กำลังหาปลาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ได้ยินเสียงร้องช่วยด้วยหลายครั้ง ก่อนที่ผู้ตายจะคลานขึ้นจากน้ำมานอนหายใจหอบริมตลิ่ง พวกตนจึงรีบวิ่งมาช่วยนำยาดมแก้วิงเวียนให้ดมและช่วยปั้มหัวใจ แต่ไม่สามารถเยื้อชีวิตไว้ได้ กระทั่งสิ้นใจดังกล่าว
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจเหนื่อยล้า เนื่องจากอายุมากแล้ว ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยและไม่เคยไปหาหมอเพราะอยู่ลำพังกับหลาน อาจเกิดอาการวูบกระทันหันเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนในช่วงเที่ยง โดยจะได้สอบสวนสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: