ปราจีนบุรี – ภาพลูกเสือ-เนตรนารี คาบขนมปังปากต่อปาก ถูกโพสลงเฟซบุ๊กสื่อจิตอาสารายหนึ่ง โดยโพสระบุว่า “สมควรหรือไม่ครูจัดกิจกรรมให้ลูกเสือ-เนตรนารี ใช้ปากคาบขนมปากต่อปาก” ซึ่งระบุว่าเป็นภาพของนักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เมื่อวันที่ 21 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบตามโรงเรียนต่าง ๆ หลายแห่ง กระทั่งทราบว่า เป็นโรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.หนองโพลง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนวัดดังกล่าว พบว่า นายพงศ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ กำนัน ต.หนองโพลง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ได้เดินทางเข้าพบกับผู้อำนวยการของโรงเรียนและคณะครู ซึ่งจากการสอบสวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนายพงศ์สิทธิ์ นายอำเภอศรีมหาโพธิ กล่าวว่า เป็นการมาสอบถามทำความเข้าใจกัน เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นและให้ทางโรงเรียนทำหนังสือชี้แจงให้ต้นสังกัดทราบโดยด่วนแล้ว
นางสาววารุณี พยายาม ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ได้ชี้แจงต่อนายนายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า จากการตรวจสอบเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ครู ม.2 ได้ทำการสอนชั่วโมงลูกเสือ-เนตรนารี ซึ่งระหว่างการทำกิจกรรมเพื่อคลายเครียดนั้น ครูได้ให้เด็ก ๆ ทำกิจกรรมหลายอย่าง รวมถึงให้เด็กได้คาบขนมปังจากปากต่อปาก เพื่อความรักความสามัคคีในกลุ่ม มิได้ทำการล่อแหลมในทางอื่นใด ซึ่งอยู่ในการดูแลของครูตลอดเวลาและเป็นชั่วระยะเวลาสั้น ๆ แล้วก็จบลงด้วยการทำอย่างอื่น ไม่ได้เน้นหนักในกิจกรรม ไม่มีใครคาดคิดว่า จะมีคนนำไปโพสทางเฟซบุ๊ก กระทั่งวันรุ่งขึ้นมีคนรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น จึงได้เรียกครูประจำชั้นมาสอบถามและทางโรงเรียนจะลงไปทำความเข้าใจและขอโทษต่อผู้ปกครองนักเรียนถึงบ้าน เพื่อลดความขัดแย้งไม่เข้าใจกันและกัน
ข่าวน่าสนใจ:
ทางด้าน นายปัญญา ขอสงวนนามสกุล ซึ่งเป็นครูชั้น ม.2 ซึ่งเป็นครูสอนในวันนั้น กล่าวสั้น ๆ ว่า ในวันดังกล่าวตนเป็นครูสอนลูกเสือ-เนตรนารี พาเด็ก ๆ สอนภาคปฏิบัติ ช่วงเวลาพักอากาศร้อน จึงให้เด็ก ๆ ทำกิจกรรมโดยให้คาบขนมปังปากต่อปาก เพื่อความรักความสามัคคีในกลุ่ม จนมีคนนำไปโพสลงเฟซบุ๊ก ตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ ขอยอมรับผิดและขอโทษต่อสังคมและผู้ปกครองนักเรียนทุกคน
ขณะเดียวกัน นางสมปอง และนางไผ่ ขอสงวนนามสกุล ชาวบ้านในพื้นที่ระเบาะไผ่ ซึ่งเป็นผู้ปกครองของบุตรหลานรายดังกล่าวตามภาพที่มีการเผยแพร่ หลังได้ดูภาพแล้ว กล่าวว่า ไม่คาดว่า ครูจะให้เด็ก ๆ ทำแบบนี้ และไม่สมควรทำแบบนี้แม้แต่น้อย กิจกรรมดีมีเยอะแยะ ทำไมไม่ทำ เสียความรู้สึก เสียชื่อโรงเรียนหมด จะถามคณะกรรมการสถานศึกษาต่อไปว่า จะทำอย่างไรต่อไป
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์ ,ลักขณา สีนายกอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: