เตือน! ระวังนายทุนระนอง หลอกขายที่ป่าชายเลนชาวบ้านเสียท่า 18 ราย
ระนอง-ผู้สื่อข่าวได้รับจากจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ว่าได้มีเจ้าหน้าที่ป่าชายเลนระนอง ตำรวจ ทหารจำนวนมาก เข้าพื้นที่จับกุมชาวบ้านที่เข้าไปปรับพื้นที่เพื่อเตรียมสร้างบ้าน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อยู่ในในความรับผิดชอบของป่าชายเลน โดยพื้นที่ดังกล่าวชาวบ้านซื้อต่อมาจากนายทุนรายหนึ่งในพื้นที่ตัวเมืองระนอง ซึ่งมีทั้งชาวบ้านที่รู้และชาวบ้านที่ไม่รู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวหากเข้าไปทำประโยชน์จะเป็นกรกระทำผิดกฎหมาย จึงมีการซื้อต่อจากนายทุนรายดังกล่าว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีการจับกุมกันมาหลายครั้งแต่เจ้าหน้าที่พยายามปิดข่าว
ซึ่งเหตุการณ์เข้าจับกุมดังดังเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 63 ที่ผ่านมาได้มีเจ้าหน้าที่ป่าชายเลน ตำรวจ ทหาร จำนวนหนึ่งได้เดินทางเข้าพื้นที่ ซอยอู่น้อยกลการ ม.2 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติคลองหัวเขียว-ป่าคลองเกาะสุย ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าชายเลน เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบประชาชนทั้งชายและหญิงรวมประมาณ 40-50 คน กำลังแผ้วถางพื้นที่ป่า ตัดต้นไม้บางส่วน ทำการปักเสาปูนกันเขตแดนพื้นที่ของแต่ละจุด เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่บางส่วนได้วิ่งหลบหนี บางส่วนไม่ได้วิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่ทำการควบคุมตัวได้ทั้งหมดรวม 18 คน จากนั้นอธิบายว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ป่าชายเลน การเข้ามาแผ้วถางบุกรุกเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พศ.2507 และ พรบ.ป่าไม้ พศ.2484 ในเรื่องการบุกรุกแผ้วถางป่า โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมทราบว่ามีกลุ่มตัวแทนจากนายทุนที่ขายที่กลุ่มหนึ่งเข้ามาเจรจากับเจ้าหน้าที่อยู่สักพักจากนั้นขับรถออกไป
ข่าวน่าสนใจ:
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวชาวบ้านทั้ง 18 คนที่กระทำผิดส่ง ร้อยเวร สก.เมืองระนองดำเนินคดี ซึ่งชาวบ้านที่ทราบเหตุการณ์มีความสงสัยว่าทำไม่จับแต่ชาวบ้านที่ซื้อพื้นที่ดังกล่าวมาในราคาล๊อกละ 5-6 หมื่นบาทจากนายทุน ซึ่งนายทุนรับปากว่าเมื่อจ่ายเงินครบสามารถออกเอกสารสิทธิตามกฎหมายได้เพราะพื้นที่ถูกต้อง แต่เมื่อมีการจับกุมเหมือนชาวบ้านถูกหลอกซื้อแล้วถูกจับกุมแต่นายทุนและกลุ่มนายหน้าหรือตัวแทนนายทุนที่มาขายกลับไม่ถูกจับกุมแต่อย่างใด และที่สำคัญคือการเข้าจับกุมในครั้งนี้ไม่ต้องการให้เป็นข่าว มีการขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่ร่วมจับกุมห้ามบอกหรือส่งเรื่องให้กับผู้สื่อข่าวในพื้นที่ได้รับทราบจึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย เพราะการจับกุมผู้กระทำผิดเรื่องป่าไม้เป็นเรื่องที่ดีในการรักษาพื้นที่ป่าไม้ แต่เจ้าหน้ากลับไม่อยากให้ใครรู้ทั้งๆที่ มีชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงจำนวนมากเห็นเหตุการณ์ทั้งการจับกุมชาวบ้านตลอดเวลา
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: