X

โอละพ่อ!คดีหนุ่มอ้างถูกแอบถ่ายคลิปนัวเนียกิ๊กพลิก ตร.พบพิรุธสอบเครียด เจ้าตัวรับเกิดมโนจนกุเรื่องขึ้นมาจริง

เพชรบูรณ์-โอละพ่อ!คดีหนุ่มอ้างถูกแอบถ่ายคลิปนัวเนียกิ๊กพลิก ตร.พบพิรุธสอบเครียด เจ้าตัวรับเกิดมโนจนกุเรื่องขึ้นมาจริง ด้านเจ้ารร.แจ้งความเอาผิดซ้ำ ในขณะที่ผู้การฯเพชรบูรณ์กำชับดำเนินเด็ดขายเด็ดขาด ล่าสุดตำรวจตั้งข้อหาดำเนินคดีอ่วม!

วันที่ 14 ส.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีหนุ่มอ้างถูกแอบถ่ายคลิปนัวเนียกิ๊ก รุดเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.อ.พนักงานสืบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ให้เอาผิดมือแอบถ่ายและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ล่าสุด หลังจากพนักงานสอบสวนของ กก.4 บก.ปคม และทีมสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ได้เค้นสอบหนุ่มรายนี้อย่างเคร่งเครียด โดยใช้ระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง เนื่องจากพบพิรุธจากคำให้การของหนุ่มซึ่งอ้างเป็นผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าว จนทำให้ชายหนุ่มรายนี้ยอมเปิดปากรับว่า เป็นเรื่องกุขึ้นมาทั้งสิ้นไม่เรื่องจริง โดยเฉพาะเมื่อทางพนักงานสอบสวนนำคลิปเสียงที่หนุ่มรายนี้มอบให้มาตรวจสอบ นอกจากจะพบว่าจะไม่ใช่เสียงของหนุ่มรายนี้แล้วยังเป็นเสียงของผู้หญิง 2 คนอีกด้วย จนทำให้หนุ่มซึ่งอ้างถูกแอบถ่ายคลิปยอมจำนนต่อหลักฐาน

ต่อมาวันเดียวกัน ผู้ประกอบการเจ้าของโรงแรมที่ถูกพาดพิงได้รุดเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เพื่อให้ปากคำแก่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากถูกหนุ่มรายนี้กล่าวหาโดยพาดพิงเป็นโรงแรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอบถ่ายภาพหนุ่มรายกับกิ๊กขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์ นอกจากจะปฏิเสธไม่เป็นความจริงแล้วจนทำให้ได้รับความเสียหาย และได้แจ้งความดำเนินคดีกับหนุ่มที่กล่าวหาอีกด้วย อย่างไรก็ตามระหว่างการให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน ทางเจ้าของโรงแรมดังกล่าวได้ห้ามสื่อมวลชนที่ไปรอติดตามข่าวถ่ายบันทึกภาพ จนทางตำรวจชุดสืบสวนต้องเชิญผู้ประกอบการเจ้าของโรงแรมรายนี้ แยกไปให้ปากคำเพิ่มเติมภายในห้องสอบสวน

ด้านพล.ต.ต.สัณห์ โพธ์รักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานผลการสอบสวนพบว่า หนุ่มอ้างถูกคลิปรายนี้สร้างเรื่องขึ้นมาคงอาจเพราะอยากดัง จึงสั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน ดำเนินคดีกับหนุ่มรายนี้โดยเด็ดขาดแล้ว ในข้อหาให้การเท็จต่อเจ้าพนักงานสอบสวน เพราะไม่เพียงทำให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลเท่านั้น แต่ยังทำให้กระทบภาพลักษณ์ของจังหวัดจนได้รับความเสียหายอีกด้วย

ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อม พ.ต.ท.สิทธินันท์ สิทธิกำจร รองผกก. กก.4 บก.ปคม.พร้อมทีมสอบสวน ร่วมกันแถลงหลังจากการพยายามสอบปากคำหนุ่มอ้างถูกแอบถ่ายคลิปกุเรื่องขึ้นมา โดย พ.ต.อ.ศรีทะนนท์แจ้งว่า หลังนายณรงค์ฤทธิ์หรือ “ต่อ” รีกวย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ ซึ่งเป็นชายหนุ่มอ้างถูกแอบถ่ายคลิปรายนี้ได้เข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน จึงวางแนวสอบสวนโดยขอหมายค้นศาลจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อตรวจค้นสถานที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด รวมทั้งรวบรวมหลักฐานจากผู้เสียหายและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จนได้ข้อเท็จจริงว่าเรื่องที่นายณรงค์ฤทธิ์มาแจ้งความร้องทุกข์ไม่เป็นความจริงเพียงแค่แอบอ้างเรื่องขึ้นมา ทางตำรวจจึงดำเนินคดี 3 ข้อหาได้แก่ 1.ข้อหาแจ้งความอันเป็นเท็จต่อพนักงานตาม ป.อาญามาตรา 137 และ 2. รู้ว่ามิได้มีความผิดอาญาเกิดขึ้น แจ้งข้อความต่อเจ้าพนักงานสอบสวนหรือพนักงานผู้มีอำนาจว่าได้มีการกระทำความผิด  และ 3.พยายามกรรโชกทรัพย์

พ.ต.ท.สิทธินันท์ สิทธิกำจร กล่าวว่า สรุปไม่มีการแอบถ่ายและไม่มีตัวตนจริงในทวิตเตอร์ จากการตรวจสอบที่ได้รับคลิปจากผู้ต้องหาแล้วพบว่า ผู้ต้องหาก็ไม่สามารถมายืนยันตำหนิของตนเองกับแฟนสาวได้ อีกทั้งในคลิปก็ไม่ปรากฏหน้าตาที่เห็นชัด ส่วนคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงของผู้ต้องหากับแฟนสาว เมื่อตรวจสอบแล้วไม่ใช่คลิปเสียงของผู้ต้องหาและแฟนสาว ทำให้เห็นว่าเรื่องทั้งหมดไม่ประติดประต่อเป็นเรื่องเดียวกัน จนผู้ต้องหารับว่าเป็นการกุเรื่องอ้างขึ้นมา ส่วนคลิปที่เกิดขึ้นเป็นคลิปที่แสวงหาในเวปไซต์ต่างๆ แล้วใช้คำว่าหน้าเหมือนรูปร่างเหมือนมากล่าวอ้าง ได้ขยายเสียงที่ฟังแล้วพบว่าเป็นเสียงผู้หญิงทั้งคู่ตั้งแต่ต้นจนจบจนผู้ต้องหาต้องยอมรับ

ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ซึ่งอ้างถูกแอบถ่ายคลิปกล่าวว่า “ไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาผมมีหน้าที่การงาน และที่เกิดขึ้นเป็นการพิจารณาภาพที่ไม่ดีแล้วเอามา แต่ก็ยืนยันว่าเข้าพักที่โรงแรมนั้นจริง ส่วนที่เข่าใจว่าทรัพย์สินและนาฬิกาเป็นของผมนั้น เมื่อมารีเพลย์ภาพช้าๆดูแล้วยอมรับไม่ใช่  ยืนยันว่าเป็นการตรวจไม่ถ้วนถี่ ไม่ได้ข่มขู่กรรโชกทรัพย์และไม่ได้มีปัญหากับเจ้าของโรงแรม และเคยใช้บริการโรงแรมนี้เพียง 3-4 ครั้ง สรุปแล้วไม่มีคลิปของตนเองหลุดออกมา

“ขอโทษทางโรงแรมด้วยผมไม่มีเจตนากุเรื่องราวขึ้นมาหรือทำตัวให้ดัง หน้าที่การงานก็มีผมก็เสียเวลาเหมือนกันและยังเสียเวลาพี่ๆนักข่าวด้วยเหมือนกัน ช่วงนั้นมันอารมณ์หงุดหงิดเกิดมโนจนคิดว่าเป็นตัวเองไปหมด พอมาตรวจดูตัวเองตอนใจเย็นๆกับพวกพี่ๆก็พบว่ามันไม่ใช่ ส่วนคลิปนั้นได้ก็อปมาจากทวิตเตอร์ที่เค้าซื้อขายคลิปจริงๆ”ชายหนุ่มรายนี้กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน