ชาวบ้านในพื้นที่ชาดหาดสำราญ หันมาตักโคลนสีนิลมาทำสปาตัว พอกแขนขา ทำง่าย ปลอดภัยและไม่มีสารปนเปื้อน เพราะมีคุณสมบัติในการดูดซับของมีพิษออกจากร่างกาย
ชาวบ้านในตำบลตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง อาศัยช่วงน้ำทะเลลดลงต่ำสุดในแต่ละวันช่วงเช้าตรูหรือเย็นพรบค้ำ ไปตักโคลนสีนิลหรือโคลนสีดำด้วยมือเปล่า ซึ่งเป็นเนื้อทรายละเอียดบริเวณชายหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง เพื่อนำมาพอกตัว แขนขาและใบหน้า พร้อมนำโคลนมาทำสปาให้กับชาวบ้านที่สนใจในราคาถังละ 40 บาท 
เพราะโคลนสีนิลในพื้นที่ดังกล่าวมีแร่ธาตุหลายชนิด ปลอดภัยและไม่มีสารปนเปื้อน มีคุณสมบัติในการดูดซับของมีพิษออกจากร่างกาย และบำรุงผิวพรรณ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 ผ่านมา นายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอหาดสำราญ ได้พาทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา มาเก็บตัวอย่างโคลนชายหาดสำราญเป็นระยะทางยาวกว่า 18 กิโลเมตร ไปวิเคราะห์หาแร่ธาตุและคุณสมบัติที่มีอยู่ในโคลนสีนิล
ปรากฏว่าได้รับคำตอบว่าไม่มีสารปนเปื้อนและมีคุณสมบัติในการนำมาทำสปาหรือพอกตัวได้ โคลนชาดหาดสำราญมีแร่ธาตุหลายชนิด จากนั้นนายอำเภอหาดสำราญได้ส่งผลการวิเคราะห์ดังกล่าว ไปยังสถาบันวิจัยเครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก ซึ่งได้รับคำตอบตรงกันว่า สามารถนำมาทำผลิตภัณฑ์พอกผิว ขัดผิวได้โดยไม่มีอันตรายใด ๆ
ขณะที่นายกสมาพันธ์สปาแห่งประเทศไทย ก็ตอบรับเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยได้ดำเนินการฝึกอบรมให้กับชาวบ้านในการทำสปาโคลนของอำเภอหาดสำราญรุ่นแรกจำนวน 20 คน แล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อนำมาให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าสู่หมู่บ้านและชุมชนอย่างเป็นระบบต่อไป
ทั้งนี้ นายอนันต์ พรหมเพียรพงศ์ นายอำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังนำตัวอย่างโคลนจำนวน 2 จุดไปวิจัยทั้ง ม.สงขลานครินทร์และ ม.นเรศวร จ.พิษณุโลกแล้ว ผลทดสอบพบว่าเป็นโคลนที่ดีมาก มีเนื้อละเอียดและสีดำ มีสารอินทรีย์สูง เหมาะในการนำมาทำผลิตภัณฑ์พอกผิว พอกตัวได้อย่างปลอดภัยและไม่มีสารปนเปื้อน เพราะมีคุณสมบัติในการดูดซับของมีพิษออกจากร่างกาย ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ได้นำตัวอย่างเข้าห้องปฏิบัติการ กรองกลิ่นและสิ่งเจือปนออกจนกลายเป็นผงที่ใช้ได้อย่างสะดวก ซึ่งโคลนสีดำของอำเภอหาดสำราญมีความยาวถึง 18 กิโลเมตร ขณะที่ชาวบ้านที่มีความรู้เรื่องนี้ ได้นำมาแช่และทำสปาแก้ปวดเมื่อยกันแล้ว โดยยังรอชาวบ้านที่เข้าอบรมจำนวน 20 คนที่จะทำสปาโคลนให้กับนักท่องเที่ยวได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป
นางปริชาติ เพทาย หรือป้าปุ๋ย อายุ64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74/2 หมู่1 ต.ตะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ผู้ทำสปาโคลน กล่าวว่า ตนเองได้เห็น คุณปู นอนแช่ในโคลน บ้างครั้งก็ให้หลานๆตักโคลนไปผอกขา ทำให้หายจากอาการเหน็บชา ชาตามแขนขา ตนเองจึงได้ลองนำโคลนสีนิลมาพอกขาก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลายหายเมื่อย จากนั้นจึงนำมาพอกหน้า ทำให้หน้าใสขึ้น ชะลอความแก่ได้ แต่ต้องทำแบบสปานะจึงจะได้ผลดีมากขึ้น
