“ศิริพัฒ พัฒกุล” พ่อเมืองตรัง เผยย้ายไปเป็นพ่อเมืองพังงา ไม่ใช่เพราะถูกตรวจสอบอะไร หรือมีปัญหาใดๆกับนักการเมืองดัง ชี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคนที่มองเป็นสำคัญ และที่ผ่านมาตนก็ทำงานเต็มที่เพื่อคนตรัง
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผวจ.ตรัง กล่าวถึงกรณีที่ตนเองโดนสั่งย้ายไปเป็น ผวจ.พังงา ว่า ในความเป็นจริงแล้วเป็นการโยกย้ายไปตามวาระ ที่ทางกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายว่า หากผู้ว่าฯ คนใดประจำอยู่ครบ 2 ปี จะมีการโยกย้ายเปลี่ยนจังหวัดไปจังหวัดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งทางกระทรวงได้เสนอให้ตนเองไปอยู่จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ตนเองได้ปฏิเสธไป เพราะมองว่าตนเองมีอายุราชการเหลืออีกเพียง 2 ปี
หากย้ายไปอยู่เมืองใหญ่คงจะทำหน้าที่บริหารได้ไม่เต็มที่ ก็หมดวาระเสียก่อน จึงขออยู่จังหวัดตรังต่อไป จนกว่าหมดวาระ แต่ทางกระทรวงได้มีการแต่งตั้งตามความเหมาะสม และได้โยกย้ายให้ตนเองไปเป็นผู้ว่าฯ พังงา แทน และชาวพังงาก็รู้สึกแฮปปี้ หลังจากทราบว่าผู้ว่าฯ คนใหม่เป็นตนเอง ซึ่งแม้จังหวัดพังงา จะดูว่าเป็นเมืองเล็กๆ แต่ทางด้านเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ถือว่าไม่เป็นสองรองใครเลยในภาคใต้
สำหรับกรณีที่มีหลายคนมองว่า ที่ตนเองโดนย้ายไปครั้งนี้ เป็นเพราะโดนตรวจสอบว่ากระทำผิด หรือที่หลายคนมองว่ามีความขัดแย้งกับบ้านใหญ่ หรือนักการเมืองใหญ่ในจังหวัดตรังนั้น ตนมองว่าที่มีปัญหากับบ้านใหญ่ หรือนักการเมืองดัง อาจจะเป็นทัศนคติที่ไม่ตรงกันของคนที่มอง แต่สำหรับตนเองไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรกับบ้านใหญ่ หรือนักการเมืองดังอยู่แล้ว ตนเองทำหน้าที่ของตน ทำงานทุกวัน ตั้งใจพัฒนาบ้านเมือง
ทุกวันนี้ต้องการกำจัดการทำงานแบบระบบอุปถัมภ์ การทำงานต้องมีระเบียบแบบแผน ไม่อย่างนั้นการบริหารงานบ้านเมืองก็ล้มเหลว ไม่สามารถควบคุมใครได้ จึงไม่แปลกที่อาจจะมีคนชอบและไม่ชอบ ขึ้นอยู่กับทัศนคติของแต่ละคน ซึ่งหากกระทำผิดจริง คงไม่ได้ย้ายไปเป็นผู้ว่าฯ อีกอย่างแน่นอน นายศิริพัฒ พัฒกุล กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: