กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เดินหน้ากระตุ้นจิตสำนึกของประชาชนผ่านสื่อสารคดีสั้นภายใต้ “โครงการประชาสัมพันธ์ลดขยะทะเล ผ่านสื่อรณรงค์ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” โดยจับมือร่วมกับองค์กรยักษ์ใหญ่ 10 องค์กร ฉายสารคดีสั้นดังกล่าวใน 130 โรงภาพยนตร์ 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล รวม 78,000 รอบ คาดจะมีประชาชนรับชมสารคดีสั้น เพื่อประชาสัมพันธ์ลดขยะทะเลเป็นจำนวนกว่า 13 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 รวมระยะเวลากว่า 4 เดือน
นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัว “โครงการประชาสัมพันธ์ลดขยะทะเล ผ่านสื่อรณรงค์ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ณ โรงภาพยนตร์ Honda Ultimate Screen 1 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นหน่วยงานหลักในการเดินหน้า ผลักดันการจัดการขยะภาพรวมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนด Roadmap การจัดการขยะพลาสติกของประเทศ พ.ศ. 2561-2573 เพื่อใช้เป็นกรอบและทิศทางการดําเนินการป้องกันและ แก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติกของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2562 ประเทศไทยสามารถยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม (Cap Seal) ได้ 100% และนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ร้านสะดวกซื้อและห้างร้านกว่า 80 แห่ง ได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการงดแจกถุงพลาสติกหูหิ้ว ซึ่งก็ได้รับการตอบรับและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากพี่น้องประชาชน
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกยังคงต้องเดินหน้าแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วนในการร่วมดำเนินการ ซึ่งนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำและผลักดันการแก้ไขปัญหาขยะทะเลและขยะพลาสติกตกค้างในสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจากการจัดอันดับโลก ปัจจุบันประเทศไทยก็ยังตกอยู่ในประเทศที่มีปัญหาด้านการจัดการขยะพลาสติกในลำดับ 10 ของโลก แม้จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2561 ที่ประเทศไทยตกอยู่ในลำดับที่ 6 ของโลก การที่ลำดับโลกดีขึ้น ไม่ได้หมายความดีที่สุดแล้ว เรายังคงต้องมุ่งหน้าร่วมมือกันแก้ไขปัญหาต่อไป “เนื่องจาก ปัญหาขยะทะเลและขยะพลาสติกตกค้างในสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาที่สั่งสมมานาน ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งมีชีวิตในทะเลไปเป็นจำนวนมาก การแก้ไขปัญหาโดยภาครัฐอย่างเดียวคงไม่สำเร็จ 100% ความร่วมมือจากภาคส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนทุกคน จึงมีความสำคัญและจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าเราจะอยู่ใกล้หรือไกลจากทะเล เราต่างมีโอกาสสร้างผลกระทบต่อความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเลทั้งสิ้น การช่วยกันทิ้งขยะในที่ที่จัดเตรียมไว้ การเลิกใช้ถุงพลาสติก การลดการผลิตขยะพลาสติกออกสู่สิ่งแวดล้อม เพื่อคงความสมบูรณ์ของระบบนิเวศและทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งของประเทศไทย ต่อไป”
ด้านนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการผลิตสื่อสารคดีสั้นครั้งนี้ เกิดจากความคิดของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) โดยการสนับสนุนของหน่วยงานพันธมิตรทั้ง 10 ราย ได้แก่ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน), บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน), บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด, บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน), กลุ่มบริษัท ดาวประเทศไทย, สมาคมบลูคาร์บอนโซไซตี้, บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน), บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท ศรีทองพาณิชย์ จำกัด โดยได้หารือร่วมกันและเห็นพ้องที่จะผลิตสื่อสารคดีที่จะสะท้อนให้ประชาชนได้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึง ปัญหาและอันตรายของขยะพลาสติกที่ตกค้างในทะเลและสิ่งแวดล้อม โดยสารคดีดังกล่าว มีความยาว 60 วินาที ซึ่งจะใช้ฉายใน 130 โรงภาพยนตร์ ในพื้นที่ 23 จังหวัดชายฝั่งทะเล ความถี่ในการฉาย 5 รอบต่อโรงต่อวัน รวม 78,000 รอบ ทั้งนี้คาดว่าจะมีประชาชนรับชมสารคดีสั้นเป็นจำนวนกว่า 13 ล้านคน ซึ่งมีกำหนดฉายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ถึง วันที่ 30 มิถุนายน 2563 รวมระยะเวลากว่า 16 สัปดาห์
สำหรับ (วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563) ได้เปิดฉายสารคดีสั้นดังกล่าวให้กับกลุ่มพันธมิตรและสื่อมวลชนได้ชมเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะได้รับความสนใจและปลุกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ตนได้หารือกับ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาต่อยอดและขยายผลกิจกรรมดังกล่าว ให้กับประชาชนทั่วประเทศได้รับรู้และรับทราบถึงปัญหาและผลกระทบต่าง ๆ ต่อไป นอกจากนี้ ภายหลังกิจกรรมแถลงข่าวและชมสารคดีสั้นผ่านสื่อโรงภาพยนตร์แล้ว นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังได้ให้เกียรติมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” แก่หน่วยงานภาคีเครือข่ายพันธมิตรจากภาคเอกชนทั้ง 10 หน่วยงาน เนื่องจากเป็นผู้ที่ประกอบคุณงามความดี อันเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และต่อประเทศชาติโดยส่วนรวม อันสมควรได้รับการยกย่องเป็นกรณีพิเศษ เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรติแก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ตามระเบียบกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ว่าด้วยเครื่องหมายเชิดชูเกียรติยศยิ่ง “รักษ์ทะเลยิ่งชีพ” พ.ศ. 2563 ข้อ 5 (6) สุดท้าย ตนขอฝากสั้น ๆ ว่า ความร่วมมือของทุกภาคส่วนสามารถยับยั้งปัญหาเหล่านี้ได้ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง รู้จักคัดแยกขยะ นำขยะกลับมาใช้ซ้ำ หมุนเวียนขยะกลับมาใช้ใหม่ กำจัดขยะอย่างถูกต้องอย่างปลอดภัย ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการใช้วัสดุจากธรรมชาติทดแทนการใช้พลาสติก เชื่อว่าอีกไม่นานปัญหาขยะทะเลภายในประเทศจะหมดไปในที่สุด นายโสภณ อธิบดี ทช. กล่าวทิ้งท้าย
#77ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: