นนทบุรี – กระทรวงสาธารณสุข เผย พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 1 คน เป็นไกด์นำเที่ยวเกาหลี รวมยอดผู้ป่วยสะสม 41 คน และมีผู้ป่วยรักษาหาย กลับบ้านได้อีก 1 คน แยกผู้กักกันตนเอง เป็น 3 ระดับ
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นำคณะผู้บริหาร แถลงข่าว สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 COVID-19 (โควิด-19) ประจำวัน ว่า แพทย์รักษาผู้ติดเชื้อหายและอนุญาตให้กลับบ้านได้เพิ่มอีก 1 คน เป็นชายชาวจีนอายุ 30 ปี จากสถาบันโรคทรวงอก
และพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อเพิ่ม 1 คน เป็นชายไทยอายุ 25 ปี อาชีพไกด์นำเที่ยว มีประวัติเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ด้วยอาการไข้ ไอ ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อ ขณะนี้รักษาตัวอยู่สถาบันบำราศนราดูร พร้อมติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดได้ 2 คน ส่วนเพื่อนร่วมทัวร์ และผู้สัมผัสบนเครื่องบิน อยู่ระหว่างติดตาม
รวมถึงขณะนี้ มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 28 คน ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 13 คน รวมยอดผู้ป่วยสะสม 41 คน สำหรับผู้ป่วยอาการหนักทั้ง 2 คน ที่สถาบันบำราศนราดูร ขณะนี้ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว รอร่างกายฟื้นตัว
จากข้อมูลระบาดวิทยา ทั้งของไทยและต่างประเทศ พบว่า ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นบุคคลในครอบครัว และบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ใส่ PPE ตามมาตรฐาน ดังนั้น เรื่องมาตรการการเฝ้าระวังและคำแนะนำในการปฏิบัติตัว จึงต้องมีการกักกันตนเอง ตามมาตรฐานการป้องกันโรค โดยแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
กลุ่มที่ 1 กลุ่มที่มีความจำเป็นต้อง แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกตอาการ (ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558) ได้แก่ 1.ผู้เข้าข่ายเกณฑ์สอบสวนโรค มีทั้งอาการและประวัติเสี่ยง ต้องแยกกักอย่างเข้มงวด 2.ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูง (High Risk Contact) กลุ่มนี้ไม่มีอาการ แต่มีความเสี่ยงสูงต่อการรับเชื้อสูงจากผู้ป่วยหรือผู้สงสัยว่าป่วย ได้แก่ ผู้สัมผัสในครัวเรือน เพื่อนร่วมชั้นเรียน เพื่อนร่วมทำงาน ร่วมยานพาหนะ ที่มีสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยตามนิยามของกรมควบคุมโรค รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่ไม่ใส่ PPE มีความจำเป็นต้องกักกันตนเอง อย่างเคร่งครัด 14 วัน ไม่คลุกคลีกับผู้อื่น งดกิจกรรมทางสังคม งดไปทำงาน งดไปโรงเรียนเรียน แยกของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น
กลุ่มที่ 2 กลุ่มไม่สัมผัสกับผู้ป่วยแต่มีความเสี่ยง คือ ผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ระบาดของโรค แต่ไม่มีอาการเจ็บป่วย ขอความร่วมมือลดกิจกรรมทางสังคม ให้สังเกตอาการป่วยอยู่ที่บ้าน/ที่พัก เฝ้าระวังตนเอง 14 วัน หลีกเลี่ยงการไปในที่สาธารณะ ที่มีคนอยู่หนาแน่นโดยไม่จำเป็น แต่หากมีอาการ ไข้ไอ เจ็บคอ ต้องพบแพทย์ทันที
กลุ่มที่ 3 คือ ผู้ที่อยู่ในชุมชนเดียวกันกับผู้ป่วยและประชาชนทั่วไป ขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข คือ กินร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัยหากไปในที่ที่มีคนอยู่มาก
อย่างไรก็ตาม ขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค ทุกคนไม่ใช่ผู้ป่วย หรือผู้ที่ถูกรับตัวเข้าไว้สังเกตอาการก็ไม่ใช่ผู้ป่วย โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทุกคน ขออย่ารังเกียจ อย่าตีตรา อย่าล้อเลียนผู้ป่วย หรือผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค ขอให้เห็นใจ ส่งกำลังใจให้หายป่วย ทุกคนที่ป่วยและเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอยู่ในระบบเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ความเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อให้คนรอบข้างและสังคมมีโอกาสน้อย อย่างไรก็ตามผู้ป่วยที่พบถือว่าเป็นกรณีศึกษาให้ประชาชนตระหนักว่าการปกปิดข้อมูลเป็นผลเสียกับตัวผู้ป่วยเอง สังคมรอบข้าง และประเทศชาติ
