น้ำทะเลกัดเซาะจนเขื่อนกันคลื่น ต.ปากน้ำปราณ พังได้รับความเสียหายยับ ยาวเกือบร้อยเมตร สาเหตุคลื่นลมแรง ปลัดเทศบาล สั่งให้พ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายอาหารที่ศูนย์อาหารชายทะเลหยุดขาย หวั่นจะเป็นอันตราย พร้อมรายงานนายอำเภอทราบ
(20 ธันวาคม 2560) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่ศูนย์อาหารเทศบาลปากน้ำปราณ ข้างสะพานปลาเก่า บริเวณชายหาดปากน้ำปราณ ม.2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ น้ำทะเลได้กัดเซาะเขื่อนกันคลื่นที่เป็นคอนกรีต โดยกำแพงปูนด้านติดทะเลเริ่มแตกหักและเริ่มเอียง พื้นกำแพงด้านในที่ปูด้วยอิฐตัวหนอนเกิดการทรุดตัว 1-2 เมตร บางช่วงเป็นหลุมลึกประมาณ 3 เมตร นำทะเลยังกัดเซาะเข้าไปบนฝั่งประมาณ 3 เมตร เสียหายตลอดแนวเป็นระยะทางยาวเกือบ 100 เมตร เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลปากน้ำปราณได้นำธงแดงมาติดเตือนไม่ให้ประชาชนลงเล่นน้ำทะเลและเข้าใกล้แนวเขตเขื่อนกันคลื่น ที่กำลังถูกน้ำทะเลพัดได้รับความเสียหาย พร้อมสั่งให้แม่ค้าพ่อค้าที่ขายของอยู่ที่ศูนย์อาหารริมชายหาดหยุดขาย เกรงจะได้รับอันตรายพร้อมรายงานให้นายอำเภอปราณบุรีทราบ
ในช่วง 2-3 วันนี้ พื้นที่จังหวัดที่ติดทะเลฝั่งอ่าวไทยมีคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้เขื่อนกันคลื่น บริเวณ ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พังเป็นแนวยาว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ฐานด้านล่างของเขื่อนกันคลื่นถูกน้ำกัดเซาะเข้ามายังพื้นดินค่อนข้างมากแล้ว ถ้าปล่อยไว้คลื่นจะซัดเข้ามาจนทำให้กำแพงปูนพังลงมา และน้ำทะเลคงจะกัดเซาะเข้ามาจนถึงต้นสนทำได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน
ด้านนางปัญญา วงษ์เนตร แม่ค้าขายอาหารตามสั่งกล่าวว่า เมื่อประมาณ 2-3 วัน ทะเลมีคลื่นลมแรงมาก พัดเข้ามากระแทกกับเขื่อนกันคลื่นตลอดทั้งวัน เมื่อเมื่อวานตอนเย็นเดินดูตามแนวเขื่อนกันคลื่นข้างร้านพบมีหลุมยุบ ประมาณ 1 -2 เมตร ก็คิดว่าคงถูกน้ำทะเลกัดเซาะแต่คงไม่มาก แต่วันนี้พบเห็นแนวเขื่อนกันคลื่นเกิดเป็นหลุมยุบยาวตลอดแนวก็ไม่คิดว่าคลื่นทะเลจะมีผลรุนแรงถึงขนาดนี้ ทุกปีก็มีคลื่นลมแรง แต่ปีนี้กลับทำให้เขื่อนกันคลื่นทรุดได้ถึงขนาดนี้หน้ากลัว ไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่จากเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ มาขอร้องให้หยุดขายของไว้ก่อนเพราะว่าเกรงจะได้รับอันตรายจากเขื่อนกันคลื่นพัง รอให้เจ้าหน้าที่เข้าปรับปรุงแก้ไขก่อนจนกว่าจะมีความปลอดภัยดีจึงจะให้กลับมาขายได้ต่อไป
CR สมบัติ ลิมปจีระวงษ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: