นครพนม – ฝนหลงฤดูทำพิษ ปลากระชังน็อคน้ำตาย ขาดทุนกว่า 10 ล้าน เกษตรกรริมน้ำสงคราม ร่ำไห้ซ้ำเติมคนจน วอนรัฐบาลช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีพายุฝนหลงฤดูตกลงมาต่อเนื่อง ถึงแม้จะส่งผลดีต่อพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ขณะเดียวกันได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกร ที่เลี้ยงปลากระชังตามริมแม่น้ำโขง รวมถึงลำน้ำสาขา น็อคน้ำตาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาพน้ำ รวมถึงอุณหภูมิในน้ำ เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้ ปลาในกระชัง ขาดออกซิเจน น็อคน้ำตาย โดยเฉพาะเกษตรกร ในพื้นที่ บ้านหวดกวน ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปัญหา ปลานิล ที่เลี้ยงในกระชัง ในลำน้ำสงคราม น็อคน้ำตาย เบื้องต้นจากการตรวจสอบ มีเกษตรกร ได้รับผลกระทบ กว่า 20 ราย มีปลานิลในกระชัง ที่เลี้ยงไว้ ประมาณ 3 -4 เดือนน้ำหนัก ตัวละประมาณ 1 – 1.2 กิโลกรัม ลอยตายเต็มกระชัง รวมไม่ต่ำกว่า 100 ตัน บางราย ได้รับความเสียหายมากเกือบ 4 -5 ตัน รวมมีปลานิลในกระชัง ลอยตาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท เนื่องจากมีราคาซื้อขาย ประมาณกิโลกรัมละ 50 -60 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นปลานิล ที่กำลังจะนำส่งขายสู่ตลาด รอ พ่อค้า แม่ค้า มารับซื้อ ส่งผลให้เกษตรกร ขาดทุนหนัก บางรายถึงขั้นนั่งร้องไห้ เนื่องจากต้องแบกภาระหนี้สิน ในการลงทุน ทั้ง ค่าหัวอาหาร ค่าวัสดุทำกระชัง ลงทุนรายละ ประมาณ รายละ 4 – 5 แสนบาท บางรายยังไม่ได้จ่ายค่าหัวอาหาร รอขายปลา แต่มาฝันสลาย ต้องนำปลาที่ตายไปทำปลาร้า และนำไปทำปุ๋ยหมักแทน
เบื้องต้นทางประมงอำเภอท่าอุเทน ได้ประสานเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจสอบ หาสาเหตุ เบื้องต้นสันนิษฐานว่า มาจากปัญหาสภาพน้ำ ที่มีการเปลี่ยนแปลง หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทั้งอุณหภูมิในน้ำ รวมถึง ค่าออกซิเจนในน้ำต่ำ ส่งผลให้ปลานิลในกระชังขาดออกซิเจนน็อคน้ำลอยตาย โดยได้แจ้งเตือนให้เกษตรกร ชะลอการเลี้ยง ในช่วงใกล้ฤดูฝน รวมถึงลดปริมาณปลานิล ต่อกระชังให้น้อยลง เพื่อให้มีออกซิเจนเพียงพอ ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือ อยู่ระหว่างการพิจารณาจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง
ด้าน นางสมคิด คำลือ อายุ 47 ปี เกษตรกรเลี้ยงปลากระชัง เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังฝนตกต่อเนื่อง ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร เลี้ยงปลากระชัง ปลานิล ตลอดลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เกิดน็อกน้ำลอยตาย เพราะสภาพน้ำเปลี่ยนแปลง มีอุณหภูมิลดลงอย่างรวดเร็ว จากร้อนจัด ทำให้ปลาปรับสภาพไม่ทัน ลอยตายหมดเกือบทุกระชัง เฉพาะของตน หลาย 10 ตัน ตายหมด ปลารุ่นนี้มีขนาดใหญ่ กำลังจะส่งขายสู่ตลาด น้ำหนักประมาณตัวละ 1 – 1.2 กิโลกรัม ราคาส่งขายพ่อค้า แม่ค้า กิโลกรัมละ ประมาณ 50 -60 บาท ต้องขาดทุนหนักบางรายลงทุนรายละ 4 -5 แสนบาท หวังว่าจะขายปลาไปใช้หนี้เครดิตหัวอาหารมาเลี้ยงปลา สุดท้ายฝันสลาย เดือดร้อนหนัก ซ้ำเติมคนจนเข้าไปอีก ยิ่งเศรษฐกิจซบเซา ต้องขนเอาซากปลาตายไปทำปลาร้าบางส่วน บางส่วนนำไปทำปุ๋ยหมัก เพราะเน่าเสียหมด ไม่สามารถนำไปขายตามปกติได้ วิงวอนไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้อง และรัฐบาลหาทางช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน ต้องแบกภาระหนี้สิน
ข่าวน่าสนใจ:
- ม.นครพนม จัดประชุมวิชาการรัฐประศาสนศาสตร์ระดับชาติ ครั้งที่ 19 ภายใต้หัวข้อ “บูรณาการ AI and Soft Power ในการบริหารภาครัฐ”
- นายกเทศบาลตำบลนาคำ แจงเหตุต้องระงับเพลิงล่าช้า จากกรณีเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยของชาวบ้าน
- ประชาชนแห่ เสกเหรียญหลวงปู่คำไหล ในพระมหาเจดีย์วัดดัง แห่ตีเลขน้ำตาเทียน หลังสาธุชนนับพันแห่ร่วมพิธี
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
ทวี อภิสกุลชาติ ข่าว/ภาพ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: