วันเสาร์ที่ 7 มีนาคม 2563เวลา 08.30 – 12.00 u.ณ โรงเรียนเทศบาล 4 (เพาะชำ)อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมานายเทวัญ ลิปตพัลลภรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะชี้แจงสถานการณ์และแนวหงการเฝ้าระวังป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (Covid-19)ประธานพร้อมด้วยนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมากล่าวและคณะผู้บริหาร ร่วมพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการแนวทางการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)…ตามโครงการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ โดยการบูรณาการและการมีส่วนร่วมจากภาคีเครือข่าย เพื่อให้ผู้เข้าการอบรมรับทราบถึงแนวทางการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และนำไปสู่การปฏิบัติการหรือประยุกต์ใช้ในการดำเนินการอย่างเหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ พร้อมสนับสนุนหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่เทศบาลนครนครราชสีมา ได้แก่ โรงพยาบาล หน่วยบริการสาธารณสุข ชุมชน สถานศึกษา สถานีขนส่ง สถานประกอบการ ตลาด วัด และหน่วยงาน องค์กร
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการแนวทางการเฝ้าระวังป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ผู้เข้าอบรมรับทราบแนวทางการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 และนำไปปฏิบัติหรือประยุกต์ใช้ดำเนินการอย่างเหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ พร้อมกันนี้ ได้มอบหน้ากากอนามัย จำนวน 30,000 ชิ้น แด่พระภิกษุสงฆ์ และมอบให้กับโรงพยาบาล หน่วยบริการสาธารณสุข ผู้นำชุมชน 90 ชุมชนในเขตเทศบาล สถานศึกษา สถานประกอบการ ตลาด และสถานีขนส่ง
ในประเทศไทยมีโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัย จำนวนทั้งสิ้น 11โรงงาน มีกำลังการผลิตโรงงานละ 1.2 ล้านชิ้น ซึ่งรัฐบาลสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เข้าไปควบคุมดูแลการจำหน่ายหน้ากากอนามัยของแต่ละโรงงานแล้ว เพื่อไม่ให้มีการฉวยโอกาสกักตุนหน้ากากอนามัย แต่กลับพบว่า หน้ากากอนามัยก็ยังมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ดังนั้น การผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าขึ้นใช้เอง ถือเป็นอีกช่องทางในการป้องกันปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย ภาครัฐจึงเตรียมเดินหน้าโครงการผลิตหน้ากากอนามัย โดยจะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ผลิตหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งภาครัฐจะเป็นผู้สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ 
ส่วนความคืบหน้าการเตรียมรับมือแรงงานผีน้อยชาวไทย ได้มีการหารือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน ได้ชี้แจงว่า แรงงานเหล่านี้บางส่วนได้ทยอยเดินทางกลับมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ซึ่งเกินกว่า 14 วัน ก็ยังไม่รายงานการป่วย แสดงความกลุ่มนี้ไม่ได้ติดเชื้อ แต่อย่างไรก็ตาม ขอพี่น้องประชาชนชาวไทยอย่าได้รังเกียจแรงงานผีน้อยเหล่านี้ เพราะเป็นคนไทยด้วยกัน และที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ไปติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อโควิด-19 อย่าไปสันนิษฐานเอาเอง ซึ่งทางรัฐบาลก็มีมาตรการกำกับดูแลในเรื่องนี้อยู่ ซึ่งถ้ากลุ่มนี้ผ่านการคัดกรอง 14 วันแล้วไม่แสดงอาการใดใด ก็แสดงว่าไม่ได้มีเชื้อติดมา แต่ก็ฝากถึงพี่น้องประชาชนเรื่องการดูแลตนเองเป็นหลัก อย่าไปในแหล่งชุมชน หรืออย่าไปใกล้คนที่มีอาการไอจาม พยายามล้างมือบ่อยๆ ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โรคภัยต่างๆ ก็ไม่สามารถจะทำอะไรเราได้ นายเทวัญฯ กล่าว.
