ที่จ.ชลบุรี ชาวสัตหีบ ไม่เห็นด้วยใช้พื้นที่กิจการอาคารรับรองเป็นที่กักตัวแรงงานไทยนอกระบบที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ หวั่นเศรษฐกิจในพื้นที่ซบหนัก แนะให้ใช้พื้นที่เกาะเป็นที่กักแทน
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
หลังจากที่กองทัพเรือได้รับการการจอสนับสนุนจากรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ในการใช้พื้นที่อาคารกิจการรับรองสัตหีบเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ การดูแลสุขภาพคนไทยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามความคิดเห็นของประชาชนชาวสัตหีบ ได้รับการเปิดเผยจาก นางศรุดา ศรีชุมพล อายุ 63 ว่า ไม่เห็นด้วยที่มีการนำแรงงานไทยที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้มากักตัวเฝ้าดูอาการที่สัตหีบ ด้วยพื้นที่ที่นำมากักตัวอยู่ใกล้แหล่งชุมชน ตลาด อยากจะให้ส่วนที่เกี่ยวข้องหาพื้นที่เกาะในสัตหีบหรือที่อื่นๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีบริเวณรั้วรอบขอบชิดกว่าอาคารรับรองสัตหีบ เพราะเกรงว่าเชื้อไวรัสจะมาแพร่กระจ่ายไปสู่ประชาชนชาวสัตหีบ ด้วยเชื้อไวรัสดังกล่าวไม่ใช่แค่เชื้อหวัดธรรมดา อีกทั้งไม่มาบ้างคนก็มีจิตสำนึกบ้างคนก็ไม่มีจิตสำนึกในการปฏิบัติตัวอย่างที่เป็นข่าวที่มีแรงงานไทยนอกระบบหนีการคัดกรองสร้างความเดือดร้อนให้คนทั้งประเทศ อีกทั้งหวั่นว่าความเสียหายหลังจากนี้จะเกิดกับคนสัตหีบในระยะยาวการค้าขายก็ซบเซา ทั้งนี้หากเป็นไปได้ให้ไปหาพื้นเกาะในการกักตัวจะดีที่สุด
ชาวสัตหีบอีกคน กล่าวว่า อยากจะฝากบอกไปยังแรงงานไทยนอกระบบที่อยู่ในอาคารกิจการรับรองสัตหีบ นั้นเป็นอาคารที่หรูอยู่สบายแต่การที่มีคนที่ถูกกักตัวเฝ้าระวังมาพูดในทางเสียหายนั้น อยากจะให้คนเหล่านั้นมาถามคนสัตหีบด้วยว่าเขาต้อนรับหรือไม่ แต่ในเมื่อมาในพื้นที่แล้วก็ต้องทำใจตอนรับ แม้เศรษฐกิจการค้าขายในพื้นที่จะได้รับผลกระทบก็ตาม เพราะตั้งแต่ครั้งแรกที่รับคนไทยจากอู่ฮั่น ก็ยอมรับได้เพราะเห็นใจคนไทยด้วยกัน แต่หลังจากอู่ฮั่นกลับชาวสัตหีบก็ได้รับผลกระทบตามมาทั้งคนไม่มาเที่ยว การค้าขายไม่ดี ทุกอย่างแย่ไปหมด
ด้านนายวิเชียร วัฒน ประธานชุมชนชายทะเล เทศบาลเมืองสัตหีบ กล่าว สำหรับชุมชนชายทะเลสัตหีบเป็นชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ตลาดสัตหีบ ห่างจากศูนย์เฝ้าระวังไม่ถึง 1 กิโลเมตร ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: