ชัยภูมิ – ก่อนแจ้งทางบ้านล่วงหน้า ให้ช่วยเตรียมสถานที่กักตัวให้พร้อมหลังถึงบ้านยินดีกักตัวด้วยความสมัครใจเอง 14 วัน!
( 11 มีนาคม 2563 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่69หมู่ 9 ตำบลหนองขาม อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ได้มีผู้เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยง โควิค-19 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข จำเป็นต้องกักตัวเพื่อติดตามอาการเป็นเวลา 14 วัน ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับบุคคลดังกล่าว
เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า บุคคลที่แจ้งได้แยกจากญาติและบุคคลอื่นไปอาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังอยู่คนเดียว ที่แยกบริเวณและไม่มีคนอื่นอาศัยอยู่ด้วย ภายในบ้านได้มีการเตรียมอุปกรณ์ เครื่องใช้ อาหารไว้ให้สามารถรับประทานพร้อมเสร็จ และมีอุปกรณ์ป้องกันการแพร่เชื้อไม่ว่าจะเป็น หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ สำหรับล้างมือและทำความสะอาด เพื่อป้องกันเชื้อโรค
ทราบชื่อผีน้อยสาวรายนี้ ต่อมาคือนางสาววิภารัตน์ สุโลรัมย์ อายุ 29 ปี ที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศเกาหลี เล่าว่า ก่อนที่ตนเองจะเดินทางกลับมาต้องไปแจ้งความประสงค์กับทางการของประเทศเกาหลี หลังจากนั้นก็จะมีการตรวจโรคและตรวจหาเชื้อ โควิค-19 ตามมาตรฐาน ซึ่งต้องรอผลหลายวัน หลังจากพบว่าไม่มีการติดเชื้อแล้ว ทางการเกาหลีจึงอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศมาได้ เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย(วันที่ 6มีนาคม 63) ก็มีการกักตัวบนเครื่องบิน เพื่อเคลียร์ผู้โดยสารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเตรียมพื้นที่จึงจะสามารถลงจากเครื่องบินได้ หลังจากนั้นก็มีการนำสารคัดหลั่งของตนเองนำไปตรวจหาเชื้อ โควิค-19 อีกครั้งที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งโดยต้องออกค่าใช้จ่ายเองกว่า 6,000 บาท และต้องรอผลตรวจกว่า 7 ชั่วโมงและหลังทราบผลว่าตนเองไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 จนท.จึงอนุญาติให้เดินทางกลับบ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2563 ที่ผ่าน
หลังจากนั้นตนเองจึงได้กักตัวเองโดยไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน แต่ก็ยังโดนโจมตีทางสื่อโซเซียลตลอดว่าตนเองไม่ยอมกักตัวไปเที่ยวสถานบันเทิงและห้างสรรพสินค้าบ้างเป็นความกดดันอย่างมาก ซึ่งตนเองยืนยันว่าได้กักตัวเองอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพังตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเกิด โดยให้ญาติเป็นคนนำอาหารมาส่งในตอนเช้าทุกวัน
ซึ่งในเบื้องต้นมีหน่วยงานสาธารณะสุขที่รับผิดชอบในพื้นที่ติดต่อหรือเข้ามาดูแลและแนะนำการปฎิบัติตัวในระหว่างกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันอย่างใกล้ชิด จากการสอบถามนางสาวผีน้อย วัย 29 ปี ถึงความลำบากในระหว่างกักตัว เธอตอบว่าในส่วนของตนเองคิดว่าลำบากแค่ 14 วันดีกว่าไปสร้างความลำบากให้กับสังคมส่วนรวม รวมทั้งตนเองก็ได้มีการเตรียมการสำหรับการเดินทางและการกักตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว เพราะก่อนหน้าที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลี ทางการได้มีการให้ความรู้และแจ้งเตือนในการปฏิบัติตัวอย่างต่อเนื่อง
จึงทำให้ตนเองเตรียมการได้อย่างดี และไม่มีปัญหาเกิดขึ้น รวมทั้งตนเองก็สมัครใจที่จะกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อแสดงให้คนในชุมชนและผู้ที่อยู่ใกล้ชิดได้เกิดความสบายใจและอยากวอนไปยังพี่น้อยที่ยังไม่กักตัวเองให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมกันให้มากๆ แต่ก็วอนขอความเห็นใจและเข้าใจจากสังคมด้วยว่าพวกตนไม่ใช่คนป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แต่อย่างใด และหลังจากผ่านการกักตัวตามเวลาครบ 14 วันแล้วตนขอให้ปฏิบัติกับตนเองเหมือนคนปกติทั่วไป
สำหรับด้านบุคคลในครอบครัวทั้งพ่อแม่พี่น้องละลูกได้แยกไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งใกล้กันเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดการติดเชื้อได้ ซึ่งตัวเธอเองถือว่าโชคดีที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงเข้าใจยังแวะเวียนสอบถามความเป็นอยู่และให้กำลังใจ ซึ่งในการพูดคุยตนเองจะใช้วิธีตะโกนคุยกันในระยะห่าง 2-4 เมตรและใช้หน้ากากอนามัยปิดปากตลอดเวลา ซึ่งครั้งนี้เธอเองก็หวังว่าทางครอบครัวจะช่วยกันผ่าวิกฤตสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตไปด้วยกันในครั้งนี้ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: