ท่ามกลางสถานการณ์โรคปอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งยังคงมีรายงานแพร่ระบาดและพบผู้ป่วยด้วยเชื้อไวรัสดังกล่าวในหลายประเทศอย่างน้อย 110 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่ประเทศไทยได้มีการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบที่เกิดขึ้น ได้สร้างความกังวลใจให้กับประชาชน เฉพาะอย่างยิ่งในสถานประกอบการต่างๆ ที่ถือเป็นสถานที่เสี่ยงเนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ ทางหน่วยงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเหมืองแม่เมาะ จึงได้มีการนำมาตรการคุมเข้มตามมาตรฐานที่ทางสาธารณสุขกำหนดเข้ามาปฏิบัติใช้ ทำการคัดกรองบุคคลผู้ที่ผ่านเข้าออกในบริเวณเขตพื้นที่ โดยเฉพาะกับบุคลากรเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานอยู่ภายในอาคารที่ทำการเหมืองแม่เมาะและพื้นที่โดยรอบ ล่าสุดได้ทำการจัดตั้งจุดคัดกรองผู้ปฏิบัติงาน และบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่องาน รวมไปถึงบุคลากรหน่วยงานที่มีการปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่สำคัญภายในเหมืองแม่เมาะ ซึ่งได้ทำการปิดกั้นพื้นที่ทุกอาคารให้มีทางเข้าและออกได้เพียงทางเดียว เพื่อให้การคัดกรองมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกำหนดให้ผู้ที่ผ่านจุดคัดกรองทุกคนต้องผ่านการตรวจวัดไข้ ผ่านการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ชนิดเข้มข้น และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติงาน
นายอำพล กิติโชตน์กุล ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ ได้กล่าวเผยว่า สำหรับมาตรการดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการปฏิบัติ เพื่อจะป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส “โควิด-19” ซึ่งได้กำหนดให้มีการปฏิบัติทุกครั้งเมื่อมีผู้ผ่านเข้าออกพื้นที่ โดยถือว่าเป็นมาตรการเข้มข้นหากตรวจพบบุคคลใดมีอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 C ทางเจ้าหน้าที่จุดคัดกรองจะไม่อนุญาตให้เข้าไปภายในพื้นที่โดยเด็ดขาด และจะต้องควบคุมนำตัวบุคคลดังกล่าวไปพบแพทย์เพื่อตรวจวัดร่างกายอย่างละเอียดที่กองการแพทย์แม่เมาะในทันที ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้สำหรับผู้ปฏิบัติงานและลูกจ้างที่มีประวัติการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ทั้งในภารกิจของ กฟผ.เหมืองแม่เมาะ และการเดินทางส่วนตัว ทางเหมืองแม่เมาะได้ประกาศให้บุคคลกลุ่มดังกล่าวต้องทำการแยกตัวเองและกักตัวในพื้นที่จำกัด (Self-quarantine) เพื่อเฝ้าดูอาการเป็นเวลา 14 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยให้ทำการแจ้งผู้ประสานงานสุขภาพและอนามัยทราบทันที ซึ่งการหยุดงานในช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่ถือเป็นวันลา
