ปทุมธานี รมช.มหาดไทย ตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน โครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19)
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่13 มีนาคม 2563 ณ หอประชุม โรงเรียนสามโคก จ.ปทุมธานี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี นายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ว่าที่ ร.ต.ขรรค์ไชย ทันธิมา ท้องถิ่นจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ เข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงาน โครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา (COVID-19) ในส่วนการดำเนินงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นการขยายผลต่อจากโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
และการจัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อการป้องกันตนเอง โดยให้ทีมวิทยากร ครู ก. ที่มีความรู้และทักษะในการจัดทำหน้ากากอนามัยร่วมมือกับกลุ่มจิตอาสาต่างๆ ในพื้นที่ ผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้าส่งมอบให้แก่ประชาชนเป็นการเร่งด่วน เพื่อป้องกัน COVID-19ทั้งนี้ทุกคนที่จะเข้ามา ณ โรงเรียนสามโคก จ.ปทุมธานี จะต้องถูกคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิร่างกายทุกคน โดยสำนักงานสาธารณสุขอำเภอสามโคก
นายทรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องจังหวัดปทุมธานี ที่นำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้นำท้องถิ่น ครู ก.จิตอาสากลุ่มต่างๆ ทำให้ผลการดำเนินงานโครงการฯ ในส่วนของจังหวัดปทุมธานีเป็นที่น่าชื่นชม เพราะได้สร้างทีมวิทยากร ครู ก.ในพื้นที่แล้วกว่า 4,000 คน มีการผนึกกำลังกับกลุ่มจิตอาสากลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ ผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้าส่งมอบให้กับประชาชนแล้วได้มากกว่า 25,000 ชิ้น และในวันนี้ยังได้ดำเนินการส่งมอบหน้ากากอนามัยชนิดผ้าให้พี่น้องประชาชนเพิ่มเติมอีก 10,000 ชิ้นด้วย
ฃอีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนทุกท่านก็คือ หน้ากากอนามัยชนิดผ้า เป็นหน้ากากทางเลือกของพี่น้องประชาชนที่มีสุขภาพแข็งแรง สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน หากจำเป็นต้องเข้าไปในสถานที่ชุมชน ผู้คนหนาแน่น หรือใช้ขนส่งสาธารณะร่วมกันเป็นจำนวนมาก หน้ากากผ้าสามารถป้องกันและลดการแพร่กระจายจากละอองไอจาม ซึ่งเป็นสาเหตุการติดเชื้อโรคไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งยังสามารถซักทำความสะอาดนำมาใช้ซ้ำได้ ช่วยลดค่าใช้จ่าย ช่วยประหยัดงบประมาณในการหาซื้อหน้ากาก และลดขยะติดเชื้อจากหน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้งได้อีกด้วย ด้วยการผนึกกำลังอย่างเข้มแข็ง ระหว่าง ทีมวิทยากร ครู ก. มากกว่า 2.3 แสนคน กับ กลุ่มจิตอาสาต่างๆ ในแต่ละท้องถิ่น
ทำให้ยอดการจัดทำหน้ากากอนามัยชนิดผ้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนถึงวันนี้มีจำนวนการผลิตมากกว่า 2 ล้านชิ้น จากเป้าหมายการผลิต 50 ล้านชิ้นทั่วประเทศ ทั้งหมดนี้เป็นความร่วมมือร่วมใจของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพี่น้ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทีมวิทยากร ครู ก. และกลุ่มจิตอาสาต่างๆ ทำให้มั่นใจได้ว่า พวกเราชาวไทยจะจับมือกันอย่างเหนียวแน่น เข้มแข็ง ผ่านวิกฤติ COVID-19 ไปได้ในที่สุด” มท.3 กล่าว
ด้านนายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนคนไทย และตลอดจนคนทั่วโลกวิตกกังวลกับปัญหาสุขภาพ ทั้งจากฝุ่น PM2.5 สถานการณ์ไวรัสโคโรนา Covid-19 ที่มีการแพร่ระบาด ไปยังพื้นที่ต่างๆ ตนรู้สึกกังวลใจและเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ตลอดจนเยาวชนในพื้นที่ต่างๆ ประกอบกับสถานการณ์ที่หน้ากากอนามัย ในท้องตลาดมีราคาสูงขึ้น ประชาชนไม่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างทั่วถึง เสี่ยงต่อการเปิดปัญหาด้านสุขภาพจากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีแนวคิดในการระดมทรัพยากร และความร่วมแรงร่วมใจของข้าราชการ ครู นักเรียน ในการร่วมจัดทำหน้ากากอนามัยจากผ้าสะอาด แจกจ่ายให้แก่นักเรียน เยาวชน และจะจัดทำต่อเนื่องเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในจังหวัดปทุมธานี เป้าหมายจะผลิตหน้ากากอนามัยแบบผ้าอีก100,000 ชิ้น
มอบให้ประชาชนทั่วไป ผู้ต้องขัง ถวายพระสงฆ์ตามวัดต่างๆ และหน่วยงาน ชุมชน โดยกำลังสำคัญเป็นครูและบุคลากร โรงเรียนสามโคก โรงเรียนวัดป่างิ้ว จิตอาสา กลุ่มสตรี ประชาชน ร่วมกันจัดทำเพื่อพี่น้องประชาชนจังหวัดปทุมธานี ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้จัดเตรียมเครื่องฉีดยาฆ่าเชื่อไวรัสไว้แล้ว100 เครื่องเพื่อป้องกันไวรัสโคโรน่า 2019และจะเริ่มระดมฉีดให้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชน และจัดให้มีจุดบริการเจลล้างมือกระจายอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของหน่วยงาน
– จัดให้มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้นและมีหน้ากากอนามัยไว้คอยบริการ
– ทำความสะอาดฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อบริเวณโต๊ะทำงาน ห้องทำงาน โต๊ะประชุม เป็นต้น
– เพิ่มความถี่ในการทำสะอาดของแม่บ้านด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณจุดที่ต้องสัมผัส เช่น ราวบันได ประตู ปุ่มลิฟท์และห้องน้ำ
– มีการพ่นฆ่าเชื้อทั่วพื้นที่และระบบระบายอากาศทั้งก่อนและหลังการทำงาน
– สร้างความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ให้เจ้าหน้าที่และประชาชนทั่วไปรับทราบอย่างทั่วถึง ผ่านสื่อ Facebook Twitter Instagram กลุ่ม Line
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: