สร้างโรงไฟฟ้า ขยะกระบี่ แก้ปัญหาขยะล้นเมือง หรือเอาปัญหาใหม่ให้ชาวบ้าน
กรณีชาวบ้านในช่อง ม.1 ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ มีความกังวลถึงผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ต่อโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชน ขนาด 6 เมกกวัตต์ ของบริษัทอัลไลนแอนซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.1 ต.ไสไทย อ.เมือง ซึ่งติดกับชุมชนบ้านในช่อง หลังผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ท่ามกลางเสียคัดค้านของชาวบ้าน ที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นกังวลว่าหลังจากที่โรงไฟฟ้าขยะแห่งนี้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อมีผลกระทบกับชาวบ้าน จะไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่า ทางบริษัทฯจะเข้ามาแก้ไขหรือยื่นมือมาให้การช่วยเหลือ
ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 11 (สุราษฎร์ธานี) นำโดยนายมีศักดิ์ เดชรัตนวิไชย ผู้อำนวยการสำนักงานประจำเขต 11 ได้ลงพื้นที่บ้านในช่อง ม.1 ต.ทับปริก เพื่อพบปะกับพันจ่าเอกปัญญา หิรัญ ประธานกลุ่มรักษ์ในช่อง และชาวบ้าน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม และข้อกังวล โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากขยะชุมชน ขนาด 6 เมกกวัตต์ ของบริษัทอัลไลนแอนซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด อยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะ
พันจ่าเอกปัญญา หิรัญ ประธานกลุ่มรักษ์ในช่อง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชาวชุมชนบ้านในช่องได้มีการรวมตัวคัดค้าน ต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ แห่งนี้มาตลอดตั้งแต่ทราบว่าทางเทศบาลเมืองกระบี่ มีโครงการก่อสร้าง แต่ไม่เป็นผล พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนไม่มี แม้แต่การจัดทำประชาพิจารณ์ ก็ยังไม่โปรงใส มีการเอาคนจากที่อื่นมาร่วมเวที ทั้งที่คนเหล่านั้นไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย นอกจากนี้ ตั้งแต่เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ ทางเจ้าของโครงการก็ไม่เคยเข้ามาหาชาวบ้านสอบถามถึงปัญหาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการก่อสร้าง ทั้งที่ตอนเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น มีการพูดอย่างสวยหรู น่าเชื่อถือ แต่สุดท้ายก็หายเงียบ
ประธานกลุ่มรักษ์ในช่อง กล่าวด้วยว่า ชาวบ้านกังวลว่าเมื่อโรงไฟฟ้าขยะ การก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดเดินเครื่อง ผลิตกระแสไฟฟ้า เชื่อว่าจากขบวนการผลิต ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของชาวบ้านและสิ่งแวดล้อม อย่างแน่นอน เพราะแค่เริ่มต้นการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ยังไม่ได้เข้าสู่ขบวนการผลิต ก็ส่อเค้าว่าบริษัทฯที่ดำเนินการก่อสร้างก็ทำผิดเงื่อนไข ตามที่ได้มีการรับปากไว้ อาทิ รับปากก่อนการก่อสร้างจะลงพื้นที่พบปะพูดคุยสอบถามปัญหากับชาวบ้าน แต่จนถึงตอนนี้ได้มีการก่อสร้างโรงงานแล้วก็ยังไม่เห็นใครลงมาหาสักคน และยืนยันว่าถึงแม้ว่าจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะไปแล้วแต่ชาวบ้านยืนยันว่าไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะ จึงเรียกร้องให้ ผู้ดำเนินการ ชี้แจง และทำข้อตกลงกับชาวบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ชาวบ้านด้วย ไม่ใช่ว่ารอปัญหาให้เกิดแล้วมาแก้ไข
สำหรับข้อเรียกร้องของตน ที่จะเรียกร้องผ่านคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลกิจการโรงไฟฟ้าจากขยะโดยตรง ให้ตัวแทนชุมชนได้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลายในประเด็นสำคัญ อาทิ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมวลพิษทางน้ำ ผลกระทบจากมวลพิษทางอากาศ ผลกระทบจากสิ่งที่เหลือจากขบวนการเผาขยะ และขอให้ชาวบ้านเข้าไปมีส่วนร่วมกับโรงไฟฟ้าขยะทุกขั้นตอนเพื่อเป็นหลักประกันหลังจากเกิดผลกระทบเมื่อโรงไฟฟ้าจากขยะเปิดดำเนินกิจการ
นอกากนี้ชาวบ้านยังเป็นกังวลการบริหารจัดการขยะในช่วงระยะเวลา 2 ปี ที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะแล้วเสร็จว่าควรให้หน่วยงานใดเข้ามาดำเนินการในการบริหารจัดการขยะ ที่เข้าสู่บ่อขยะทุกวันไม่ต่ำกว่า 170 ตัน/วัน ให้ชัดเจนมิใช่ปล่อยให้ขยะมีสภาพอย่างที่เป็นอยู่เช่นทุกวันนี้ที่ไม่มีการฝังกลบขยะให้ถูกต้องตามหลักสุขาภิบาลและพรบ.รักษาความสะอาด ประเด็นที่สำคัญอีกอย่างก็คือ เห็นควรให้ทางสำนักงานฯเป็นตัวกลางจัดเวทีพบปะทำความเข้าใจระหว่างทางบริษัทฯและประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งทางผอ.สำนักงานก็รับปากจะจัดเวทีดังกล่าวเพื่อความเข้าใจอันดีต่อกัน
นายมีศักดิ์ เดชรัตนวิไชย ผู้อำนวยการสำนักงานประจำเขต 11 กล่าวว่า สำนัก กกพ.มีหน้าที่ออกใบอนุญาตให้กับโรงไฟฟ้า แต่ก่อนออกใบอนุญาต ทางบริษัทฯก็ต้องทำรายงานการศึกษาผลกระทบต่างๆในพื้นที่ และต้องทำความเข้าใจกับชุมชนด้วย มีการศึกษาสิ่งแวดล้อม การใช้น้ำ และอื่น รายให้กับทาง กกพ.ทราบ ซึ่งการทำความเข้าใจกับชุมชนก็เป็นหนึ่งประเด็น ที่ทางบริษัทจะต้องทำรายงานด้วย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นคนกลางประสานให้มีการเปิดเวทีขึ้นในเร็วๆนี้
