จากกรณีที่มีข่าวเรื่องที่มีนักดำน้ำหาของเก่าในแม่น้ำแม่กลองไปพบวัตถุคล้ายกับระเบิด สมัยสงครามโลกจำนวน 3 ลูกซึ่งแต่ละลุกมีขนาดใหญ่เท่าตัวคน เมื่อปีพ.ศ.2548 และได้มีการทำทุ่นลอยไว้เป็นสัญลักษณ์ และได้แจ้งให้หน่วยงานภาครัฐได้รับทราบเพื่อรอการดำเนินการตรวจสอบความชัดอีกครั้งว่าใช่ระเบิดจริงหรือไม่ เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งมีโครงการก่อสร้างทางรถไฟคู่ช่วงนครปฐม-หัวหิน ซึ่งเส้นทางนั้นจะสร้างคู่ขนานไปกับทางสะพานจุฬาลงกรณ์เดิม ซึ่งจะต้องผ่านแม่น้ำแม่กลอง จึงทำให้มีการนำเสนอเรื่องของการเก็บกู้ระเบิดเสียก่อนที่จะมีการก่อสร้างเพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตราย ซึ่งในเรื่องนี้นางนิตย์ รักชื่น อายุ 67 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับสะพานจุฬาลงกรณ์ ก็บอกว่า พอมีข่าวเรื่องของการพบระเบิดออกมานั้นก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือว่าตื่นตระหนกอะไร เพราะอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ว่ายน้ำลงไปงมหากุ้ง หาปู ในแม่น้ำใกล้กับจุดที่มีคนบอกว่ามีระเบิดเป็นประจำ แต่ไม่เคยไปพบลูกระเบิดที่ว่า และคิดว่าถ้ามีระเบิดในแม่น้ำแม่กลองจริงในช่วงที่มีการก่อสร้างถนนและสร้างสะพานธนะรัชต์ข้ามแม่น้ำ ซึ่งอยู่คู่กับสะพานรถไฟนั้น ก็น่าจะมีการระเบิดไปแล้ว เพราะมีการตอกเสาเข็มน่าจะมีแรงสั่นสะเทือนมาก แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรจึงได้ไม่กลัวเรื่องของข่าวที่พบว่ามีระเบิดในแม่น้ำแม่กลองและทุกวันนี้ก็ยังใช้ชีวิตตามปกติ
ด้านนายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ได้ออกมาแจ้งเตือนประชาชนว่าอย่าตื่นตระหนกกับข่าวที่ออกมาเพราะยังไม่ได้มีการพิสูจน์ความจริง ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมานั้นเนื่องจากจะมีการก่อสร้างทางรถไฟรางคู่ จึงทำให้มีการกระพือข่าวดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งจะต้องให้ทางการรถไฟได้ดำเนินการสำรวจก่อนว่ามีระเบิดอยู่จริงหรือไม่ และถ้ามีก็จะต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ซึ่งจะต้องมีขั้นตอนอีกหลายอย่าง ในส่วนของจังหวัดราชบุรี ก็จะเป็นผู้ให้การสนับสนุน และขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้เข้าไปใกล้ในจุดดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัย
