นครปฐม : หัวหน้าเซลล์ขายรถยนต์ยี่ห้อดัง เปิดฉากชกต่อยกันกลางห้องประชุม ก่อนจะใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระหน่ำยิง เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 ตำรวจตามรวบตัวมือก่อเหตุทันควัน หลังหนีไปเปลี่ยนรถที่บ้าน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี พร้อมอาวุธปืนอีกหลายกระบอก
เวลา 09.50 น. วันที่ 20 มี.ค.63 พ.ต.ท.ปานศิริ ศรีสวัสดิ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.นครปฐม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันในโชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ บริษัท บริษัท อีซูซุตั้งเซียฮวดนครปฐม จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 76 หมู่ 1 ริมถนนเพชรเกษม ต.สระกะเทียม อ.เมือง จ.นครปฐม มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บสาหัส 2 ราย หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพิสูจน์หลักฐาน 7 และชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุภายในห้องประชุม ภายในโชว์รูมรถ พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.กระจายเกลื่อน กระจกแตกมีรูกระสุน และรอยเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ พลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ – สนามจันทร์ เสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 ราย ทราบชื่อนายหฤษฎ์ คิดดี หรือเอส ไม่ทราบอายุ มีบาดแผลถูกยิงรวม 6 นัด ที่ศีรษะ ร่างกาย และใต้รักแร้ซ้าย 1 นัด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนายธานินทร์ พิมพ์ศรีกล่ำ และอีกคนยังไม่ทราบชื่อ
ส่วนผู้ก่อเหตุ เป็นหัวหน้าเซล ชื่อนายสุพัตร์ สุขพันธ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 / 315 ถ.บ้านปากแรต ต.บ้านโป่ง อ.บ้างโป่ง จ.ราชบุรี หลังก่อเหตุขับรถยนต์เก๋งฮอนด้า สีบรอน – น้ำตาล ทะเบียน บว 7018 กทม.หลบหนีไป เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งสกัดในทุกส้นทางและประสานไปที่ สภ.บ้านโป่ง เข้าไปที่บ้านผู้ก่อเหตุ พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่
สอบถามคนในบ้านให้การว่า ผู้ก่อเหตุขับรถมาจอดไว้ และเปลี่ยนรถปิกอัพ 4 ประตู สีขาว ทะเบียนป้านแดง ออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามไป และจับกุมได้ริมตลองชลประทาน คูคด เขตพื้นที่โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมอาวุธปืนที่ก่อเหตุ และอาวุธปืนอีก 4 กระบอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำส่ง สภ.บ้านโป่งเพื่อสอบสวน
จากการสอบสวนผู้พบเห็นเหตุการณ์เล่าว่า เหตุเกิดขณะกำลังประชุมเซล ผู้ก่อเหตุเข้ามาประชุมสาย เกิดมีปากเสียงกับผู้ตาย ซึ่งเป็นเซลด้วยกัน ทั้งคู่ชกต่อยกัน เพื่อนอีก 2 คนเข้ามาห้าม มือปืนจึงได้ควักอาวุธปืนที่ติดตัวมา ยิงใส่ผู้ตายหลายนัด ทุกคนที่ในห้อง ต่างตกใจ หลบลงใต้โต๊ะ กระสุนปืนถูกคนที่เข้ามาห้ามได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุ พนักงานช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล
เบื้องต้นสันนิษฐาน สาเหตุอาจเกิดจากความขัดแย้งเรื่องการขายรถที่มีมานานกว่า 1 ปี หรืออาจมีสาเหตุส่วนตัว ทั้งนี้ จะต้องรอสอบสวนอีกครั้ง.
เครดิตภาพข่าว : เลี๊ยบนิวส์ ข่าวภาค 7
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: