อุบลราชธานี – โผล่เพิ่มอีก 2 ผู้เสียหายมิจฉาชีพอ้างหัวหน้าพรรคการเมือง ต้มตุ๋น หลอกเอาพระ สร้อยทอง ขณะที่รองผู้กำกับหัวหน้าชุดสืบสวนบูรณาการเมืองอุบลฯ เผยออกหมายเรียกหญิงสาวภรรยาผู้การมิจฉาชีพแล้ว หากขัดหมายเรียกเตรียมออกหมายจับ
จากกรณีที่หนุ่ม-สาวเมืองดอกบัวงาม วอนสื่อประกาศหาเบาะแสมิจฉาชีพ อ้างเป็น “ผู้การ ปส.” ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการลับ ลวงเชิดพระเครื่อง “หลวงปู่หมุน” วัดบ้านจาน ทำรับกรรมติดหนี้ครึ่งล้าน แฉทำทีรู้จักคนมีสี บอกฝากเข้าตำรวจได้ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดชาวเน็ตขุดหาเบาะแส 2 มิจฉาชีพดังกล่าวในเพจ “ มิจฉาชีพ วงการพระเครื่อง พวกปิดพระเล่นไม่รับผิดชอบ ต้องประจาน” ได้มีผู้เสียหาย ใช้ชื่อว่า Risa Meaw นำภาพชายหญิงลักษณะคล้าย 2 คนที่ก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี มาเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.ค.61 ระบุข้อความ “ขออนุญาติ แอดมินเพจ มิจฉาชีพรูปแบบใหม่. ทำมาตีสนิท. แล้วหลอกล่อ ให้หาพระเครื่อง ที่ดิน ซื้อขายรถ แล้วใส่ยาในเครื่องดื่มจนรูดทรัพย์ไป ช่วยกันแชร์ได้เลยค่ะ”
จากการติดต่อสอบถาม น.ส.คูณณิชา รัตนพงษ์เกียรติ อายุ 40 ปี เจ้าของเฟสบุคดังกล่าว หนึ่งในผู้เสียหายในจังหวัดระยอง เปิดเผยเรื่องราวของมิจฉาชีพคู่นี้ว่า 5 กรกฎาคม 2561 ตนได้รู้จักมิจฉาชีพคู่นี้ผ่านการแนะนำของนายอั้น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี โดยผู้ชายอ้างตัวชื่อนายมนูญ คำมาไว (ภายหลังทราบว่าถูกแอบอ้าง) และนางสาวจุฑารัตน์ บัวฉุน (ภายหลังทราบว่าถูกแอบอ้าง) อายุ 31 ปี ว่าต้องการซื้อที่ดินที่ตนเองประกาศขายจำนวน 38 ไร่ รวมมูลค่า 76 ล้านบาท
นอกจากที่ดินของตนเองแล้วนายมนูญ ยังแอบอ้างว่าเสี่ยหนู หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ภูมิใจไทย ต้องการระบายเงินจำนวน 2,500 ล้านบาท ออกก่อนทำการเลือกตั้ง ปี 62 ด้วยการกว้านซื้อที่ดิน หากหาให้ได้จะได้ค่านายหน้า 1 เปอร์เซ็นต์ ตนและเพื่อนสามารถหาที่ดินได้เพิ่มอีก 500 ไร่ มูลค่า 800 ล้านบาท นายมนูญ ได้ตกลงรับซื้อไว้ทั้งหมดนัดเงินวันที่ 12 ก.ค.61
น.ส.คูณณิชา เล่าอีกว่าระหว่างที่ติดต่อเรื่องธุรกิจที่ดิน นายมนูญ มักจะมีโทรศัพท์เป็นสายเรียกเข้าขึ้นชื่อนักการเมือง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นประจำ มักอวดอ้างว่ารู้จักผู้ใหญ่นักการเมือง ฝ่ายการข่าวความมั่นคง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่างๆนานา
สอบถามหาพระเครื่องหลวงปู่ทิม และพระเจ้าตากปี 16 ตนก็ติดต่อเพื่อนที่รู้เรื่องพระเครื่องรุ่นดังกล่าวมาให้นายมนูญดู ตกลงราคาที่ 225,000บาท หลังตกลงนายมนูญจะให้ตนจ่ายค่าพระให้ก่อนแล้วจะมอบรถยนต์ 1 คันให้เป็นการตอบแทนแต่ด้วยที่ตนเองยังไม่พร้อมเลยต้องยกเลิกการซื้อขายไป
ล่าสุดก่อนออกลายโจรได้อ้างว่ามีเพื่อนเดินทางมาจากเมืองนอก อยากให้ตนหาโทรศัพท์มือถือมือสองระบุเป็นซัมซุงโน้ต 8 ตนก็ติดต่อเพื่อนที่ขายโทรศัพท์ให้ และให้ตกลงคุยกันเอง
ทั้งคู่ตกลงซื้อขายกันโดยเอาโทรศัพท์มาฝากไว้ที่บ้านของตนแล้วนายมนูญจะโอนเงินจ่ายกับเพื่อนเอง แต่ก็ได้รับการบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดขณะนั้นยังมีการติดต่อกันตลอดไม่สงสัยอะไรมาก
11.00 น.(11ก.ค.) ตนได้รับโทรศัพท์จากนายอั้น ว่าถูกนายมนูญ ลวงเอาสร้อยคอทองคำ หนัก 20 บาท พระเครื่อง 6 องค์ กระดูกของแม่เลี่ยมทอง 1 อัน มูลค่ารวมกว่า 400,000 บาท ไปขณะที่นายมนูญนัดให้ไปรับที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านเอกมัย แล้วก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทำให้ตนเองทราบว่าโดนหลอกเรื่องโทรศัพท์มือถือมูลค่า 23,000 บาท เช่นกัน จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองระยองในวันเดียวกัน
ด้านคดี พ.ต.ท.ปราโมทย์ ชื่นตา รองผู้กำกับการสอบสวน(หัวหน้างานสอบสวน)สภ.เมืองอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จากการดำเนินการสืบสวนสอบสวนบูรณาการทำให้พอทราบตัวกลุ่มคนร้ายแล้วว่าเป็นใคร ใช้ยานพาหนะ มีถิ่นที่อยู่อย่างไร ในเบื้องต้นทางทีมสอบสวนได้ทำการออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ไปแล้ว หากออกครบตามที่กฎหมายกำหนดยังขัดหมายเรียก ก็จะดำเนินการออกหมายจับตามขั้นตอน
พ.ต.ท.ปราโมทย์ ฝากถึงคู่กรณีที่นำพระเครื่องไป หากทราบข่าวเรื่องนี้แล้วอยากให้มาพบพนักงานสอบสวน ติดต่อทางผู้เสียหายให้นำทรัพย์สินนั้นมาคืนหรือชดใช้ราคากัน ทั้งนี้หากมีความพึ่งพอใจของผู้เสียหายแล้วถอนคำร้องทุกข์คดีก็ระงับไป ตนจึงอยากขอให้พยามติดต่อสื่อสารมายังพนักงานสอบสวนหรือ ตนเองซึ่งเป็นหัวหน้างานสอบสวน
ข่าวโดย : เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: