นนทบุรี – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมทีมแพทย์ชั้นครูแถลงสร้างความเชื่อมั่น วอน ประชาชนเข้าใจ มีวินัย รับผิดชอบต่อสังคม งดพฤติกรรมเสี่ยงแพร่เชื้อ หลั่งน้ำตา ขอให้ไว้ใจ พร้อมทำอย่างเต็มที่ จะไม่ทำให้ผิดหวัง
วันที่ 21 มีนาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คณะที่ปรึกษา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยที่ผลิตแพทย์ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แถลงหลังประชุมหารือ การบริหารจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า วันนี้ ได้สรุปสถานการณ์ให้ทุกคนได้รับทราบการใช้มาตรการที่เข้มข้นขึ้น ในการป้องกันการระบาด ซึ่ง สธ.เป็นองค์กรหลักที่จะประสานกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากถึง 80 % ของผู้ป่วยทั้งประเทศ ดังนั้น การดูแลรักษา ป้องกัน และบริการผู้ป่วย จะเน้นพื้นที่ กทม.เป็นพิเศษ หากสามารถควบคุมการแพร่เชื้อในพื้นที่ กทม. ได้ สถานการณ์ทั่วประเทศก็จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
จึงจำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ จะต้อง “ปิดกรุงเทพฯ” ให้มิดชิด ซึ่งคำว่า “ปิด” ในที่นี้ ไม่ได้หมายถึง “ปิดเมือง” เเต่หมายถึง “ปิดผู้ป่วยไม่ให้เดินทางไปต่างจังหวัด” ก็จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น เพราะต่างจังหวัดจะเป็นแหล่งที่รับผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพฯ ขอความร่วมมือทุกคน ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต ในช่วงการระบาดของโรค ต้องรู้จักเเละเข้าใจคำว่า “Social Distancing” หรือ “การเว้นระยะห่างทางสังคม” ให้มากที่สุด ปรับพฤติกรรมในการอยู่ร่วมกัน และไม่ควรออกไปในสถานที่ที่มีประชาชนหนาแน่น เพื่อให้ทุกคนไม่มีโอกาสได้รับเชื้อ
ช่วงท้ายของการแถลง นายอนุทิน กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือทั้งน้ำตา ยืนยันว่า วันนี้ มีบุคลากรชั้นนำทางการเเพทย์ของประเทศไทยมารวมตัวกัน คือ การรวมตัวของทีมงานที่ดีที่สุด (The best Team) เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส จึงอยากขอกำลังใจจากประชาชนให้เจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้สามารถผ่านสถานการณ์นี้ไปได้โดยเร็ว ทุกบาททุกสตางค์ที่ท่านเสียภาษีให้กับประเทศนี้ วันนี้พวกเรารวมหัวใจกันมาต่อสู้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนปลอดภัย “ขอให้มั่นใจในพวกเรา เราจะไม่ทำให้ผิดหวัง”
ด้าน ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นายกสภามหาวิทยาลัยมหิดล และอดีต รมว.สาธารณสุข ย้ำให้ความเชื่อมั่นว่า ทีมงานที่อยู่ด้วยกันนี้ ดีที่สุดในประเทศ และต่างประเทศก็เชื่อมั่นในบุคลากรของไทย เรารวมคณบดีคณะแพทยศาสตร์จากทุกแห่ง และสถาบันการแพทย์อื่น ๆ รวมเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้รู้ว่าใครกำลังทำอะไรอยู่ จะได้รู้และทำตั้งแต่การป้องกัน ควบคุม รักษา ดังนั้น จึงมั่นใจว่าถ้าต้องดูแลประชาชน ประชาชนมั่นใจได้ว่าเราจะทำดีที่สุด และเชื่อว่าเดินทางมาถูกทางแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
- กกต.อบจ.เพชรบูรณ์ ประกาศผลเลือกตั้ง "อัครเดช"รั้งแชมป์สมัย 7 ผู้ใช้สิทธิ์ไม่ถึงร้อยละ 50 ปชช.สงสัยผู้ใช้สิทธิกับบัตรลงคะแนน เลขเขย่งถามสาเหตุ
- ‼️เลือดหนึ่งหยด..มีค่า-ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย,บาดเจ็บ‼️
- สจ.เปี๊ยกไม่ปลื้ม นายกไก่เปลี่ยนใจยอมสยบฉายแสง สุดท้ายกลายเป็นมาให้กำลังใจ
อย่างไรก็ตาม ต้องขอความร่วมมือประชาชน ทำตามนโยบายที่รณรงค์ ไม่ออกไปในพื้นที่เสี่ยง ส่วนคนที่ติดเชื้อต้องรับผิดชอบไม่ปกปิดข้อมูล เพราะอันตรายต่อคนรอบข้าง
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยจะไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลหมด แต่จะอยู่ในที่พื้นที่จัดสรรที่เหมาะสมด้วย เช่น โรงแรม ซึ่งมีโรงแรมบางแห่งประสานที่จะให้ใช้สถานที่ กรมที่เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว เคสที่จำเป็นจะสามารถเคลื่อนย้ายเข้าไปได้ตั้งแต่วันจันทร์นี้ จะทำให้ผู้ป่วยที่หนาแน่นอยู่ใน รพ.รามาธิบดี ศิริราช จุฬาลงกรณ์ คลี่คลายลง และมีเตียงรองรับผู้ป่วยที่มีอาการหนัก ทุกสถาบันพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องช่วยหายใจมีเพียงพอ จึงเชื่อว่าจะดูแลประชาชนได้ดีแน่นอน
“ช่วงแรกของการดำเนินมาตรการเข้มงวด จะยังไม่เห็นผลชัดเจนใน 3-4 วัน เพราะตอนนี้เทรนด์ตัวเลขผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้น และจะขึ้นไปอีกจึงอย่าตกใจ แต่กระบวนการที่รัฐบาลกำลังทำ และความร่วมมือจากประชาชน ถ้าทุกคนร่วมมือกันจริงจัง มีวินัย ดูแลตัวเอง รับผิดชอบต่อสังคม เชื่อว่าใน 7 วัน ตัวเลขจะเบนออกไปและดีขึ้น” นพ.ปิยะสกล กล่าว
ส่วน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ระบุว่า สำหรับพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นการทำงานประสานร่วมกันระหว่าง กทม. สธ. และ รร.แพทย์ ซึ่งจะนำโมเดลนี้ขยายไปยังทุกจังหวัด คือ ภาควิชาการ การสาธารณสุข และท้องถิ่น จะทำงานร่วมกัน ไม่อยากให้เกิดแบบกรุงเทพฯสอง ในจังหวัดอื่น อยากให้ทุกคนมั่นใจ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: