สงขลา – สะเดา พิษโควิด-19 นักท่องเที่ยวและแรงงานชาวไทย ยังคงทะลักผ่านด่านพรมแดนสะเดาเป็นวันที่ 2 หลังจากจังหวัดสงขลา มีมาตรการระงับการเดินทางเข้า- ออกของบุคคลต่างด้าว ณ จุดผ่านแดนถาวรทั้ง 3 แห่งในจังหวัดสงขลาเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2563 จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ( มีคลิป )
22 มีนาคม 2563 ที่จุดผ่านแดนถาวรด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ยังคงมีนักท่องเที่ยวและแรงงานชาวไทย เดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เดินทางจากรัฐต่างๆในประเทศมาเลเซียโดยรถบัส ซึ่งมาส่งบริเวณด่านตรวจของทหาร ก่อนถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศมาเลเซีย ตั้งแต่ตอนเช้ามืด เพื่อรอเวลาด่านเปิดทำการ หลังจากนั้นทุกคนต้องเดินเท้าออกมาที่ด่านสะเดา เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
โดยที่ด่านสะเดายังคงมีเจ้าหน้าที่เฝ้าประจำจุดคัดกรอง เพื่อบันทึกข้อมูลชื่อ ที่อยู่ ประวัติการเดินทาง และตรวจคัดกรองโรค COVID – 19 ในเบื้องต้น ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอสะเดา อสม. เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา ตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.5021
ทั้งนี้จังหวัดสงขลาได้มีคำสั่งระงับการเดินทางเข้า – ออก ของบุคคลต่างด้าว ยกเว้นคนประจำพาหนะขนส่งสินค้าสัญชาติมาเลเซีย จำนวนคันละ 1 คน ซึ่งต้องผ่านการตรวจคัดกรองติดเชื้อ COVID – 19 จากเจ้าหน้าที่ก่อน ซึ่งจังหวัดสงขลามีจุดผ่านแดน 3 แห่ง ได้แก่ จุดผ่านแดนถาวรด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา ตรงข้ามด่านบูกิตกายูฮิตัม รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย จุดผ่านแดนถาวรด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ตรงข้ามด่านปาดังเบซาร์ รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย และจุดผ่านแดนถาวรด่านประกอบ อ.นาทวี จ.สงขลา ตรงข้ามด่านดุเรียนบุรง อ.ปาดังเตอรับ ประเทศมาเลเซีย
ซึ่งจากคำสั่งดังกล่าวทำให้บุคคลสัญชาติอื่นๆไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ สำหรับนักท่องเที่ยว และแรงงานชาวไทยได้เดินทางกลับแล้วเป็นส่วนมาก เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค COVID – 19 ในประเทศมาเลเซียค่อนข้างรุนแรง และสถานที่ทำงานต่างๆไม่อนุญาตให้เปิดบริการ โดยมีตัวเลขผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศมาเลเซียผ่านด่านทั้ง 3 แห่ง ใน จ.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 17 – 22 มี.ค. 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 33,704 คน
