ห้างสรรพสินค้ากระทบหนักจากโควิดลูกค้าลดฮวบ บรรยากาศเงียบเชียบ ยอดขายหายหลายล้านบาท งัดมาตรการลดค่าใช้จ่ายบางส่วนสู้ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าเช่าพื้นที่ใจเสียระบุ สามารถกัดฟันสู้ภาวะขาดทุนได้แค่ไม่เกิน 2 เดือนเท่านั้น เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า วอนรัฐหามาตรการช่วยเหลือ
วันที่ 22 มีนาคม 2563 บรรยากาศภายห้างสรรพสินค้าต่างๆในจังหวัดตรังเงียบเชียบ ลูกค้าหดหาย เพราะกลัวปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ขณะนี้ในประเทศไทย พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ขณะที่จังหวัดตรังแม้จะไม่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ แต่จังหวัดใกล้เคียงส่วนใหญ่ก็ทยอยพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนกลัวการแพร่ระบาด จึงไม่ไปในพื้นที่ที่มีผู้คนอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ตามคำแนะนำของทางการ โดยเฉพาะที่ห้างโรบินสินตรัง ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง มีพื้นที่ร้านค้า ร้านอาหารต่างๆจำนวนมาก รวมทั้งโรงภาพยนตร์ก็พบว่า ทางห้างได้ใช้มาตรการเฝ้าระวังผู้ป่วยอย่างเต็มที่ ทั้งการจัดเจลล้างมือไว้ให้บริการแก่ประชาชนที่เข้าออกทุกประตู รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากพบมีอาการไข้ 37.5 องศาเซลเซียส จะไม่ให้อนุญาตให้เข้าไปภายในห้างอย่างเด็ดขาด แต่ก็พบว่าบรรยากาศก็เงียบเหงา ประชาชนเดินทางไปจับจ่ายซื้อของบางตา
นายดำรง ติงหงะ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ห้างโรบินสันตรัง กล่าวว่า เบื้องต้นขณะนี้ลูกค้าหายไปเฉลี่ยวันละ 3,000 – 4,000 คน หรือหายไปเกือบ 20%แล้ว เดิมลูกค้าแน่นห้าง ลานจอดรถต้องวนหาที่จอด แต่ขณะนี้กระทบหนัก และแนวโน้มก็เชื่อว่าลูกค้าก็จะหายไปอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ สัญญาณหายไปของลูกค้าเริ่มต้นมาตั้งแต่ปีใหม่ จนถึงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่หายไปวันละประมาณ 1,000 – 2,000 คน แต่จนกระทั่งถึงขณะนี้เฉลี่ยหายไปวันละประมาณ 4,000 คน ทำให้รายได้หายไปเฉลี่ยเดือนละประมาณ 4 – 5 ล้านบาท โดยทางห้างมีมาตรการ ล้างมือก่อนเข้าในห้าง ใช้เครื่องสแกนตรวจวัดไข้ที่ประตูทางเข้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่น แต่แนวโน้มยังจะลดลงหนักขึ้นอีก บริษัทก็พยายามพยุงในส่วนของพนักงานให้อยู่ได้ ไม่ให้กระทบรายได้ของห้างมากที่สุด โดยลดค่าใช้จ่ายอย่างอื่นแทน ทั้งนี้ ในส่วนของพนักงานห้างมีประมาณ 117 คน ส่วนของพนักงานร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ภายในห้างมีประมาณ 250 คน ร้านค้ามีประมาณ 150 ร้าน ทั้งนี้ ได้รับผลกระทบเหมือนกันหมดทุกร้าน ทั้งโซนร้านอาหาร โซนเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ และโซนข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้รับผลกระทบหมด
ทางด้านเจ้าของร้านขายรองเท้า บอกว่า บรรยากาศเริ่มซบเซามาตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา จนกระทั่งประมาณ 2 อาทิตย์นี้ เงียบมาก ไม่มีลูกค้าเข้าห้าง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปจะแย่มาก ๆ เพราะมีค่าใช้จ่ายทุกเดือน รวมทั้งค่าเช่า และแนวโน้มถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ร้านตนจะสามารถสู้ทนแบกรับภาระขาดทุนไปได้เต็มที่แค่ประมาณ 2 เดือนเท่านั้น แต่ถ้ามากกว่านี้สู้ไม่ได้แน่นอน จากเดิมขายได้เดือนละประมาณกว่า 1 แสนบาท แต่แค่ 2 สัปดาห์ยอดหายไปแล้วครึ่งต่อครึ่ง และแนวโน้มจะหนักกว่านี้ ทั้งนี้ เหมือนกันหมดทุกร้าน อยากให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือ
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: