ขอนแก่น – “น้องแบม” ปณิดา ยศปัญญา เปิดใจชีวิตทุกวันนี้ยังต้องดิ้นรน ขอโอกาสผู้ใหญ่บรรจุเข้ารับราชการ เผยยังมุ่งมั่นอยากดูแลคนยากไร้
ที่ห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลาง จ.ขอนแก่น ช่วงเช้าวันนี้ น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้อมแบม อดีตนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ออกมาเปิดเผยกรณีทุจริตในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น สังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จนส่งผลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถูกตรวจสอบไปทั่วประเทศ ได้เดินทางมาพร้อมนางน้อมจิตร ยศปัญญา มารดา เพื่อร่วมในพิธีประกาศเกียรติคุณในโอกาสที่ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2561 จากนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น
โอกาสนี้ น.ส.ปณิดา ได้เปิดใจถึงชีวิตในขณะนี้ว่า ตนเพิ่งสำเร็จการศึกษาจาก ม.มหาสารคาม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เมื่อจบการศึกษา ทางโรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น ทราบว่า ตนยังไม่มีงานทำ ผู้บริหารโรงแรมจึงได้กรุณารับเข้าทำงานในตำแหน่ง จนท.ประชาสัมพันธ์ และยังได้รับทุนการศึกษาในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยรังสิต ในสาขาผู้นำสังคมธุรกิจและการเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการช่วยเหลือจากองค์กรภาครัฐที่เคยให้สัญญาว่า จะช่วยเหลือหลังเรียนจบระดับปริญญาตรีแล้ว น.ส.ปณิดา กล่าวว่า ยังไม่มีหน่วยงานใดแจ้งความจำนงมา เช่นเดียวกับ น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล หรือเกมส์ ก็ไม่มีหน่วยงานใดช่วยเหลือ แต่มีผู้ใหญ่บางท่านติดต่อมา บอกว่าให้สมัครสอบตามระบบทั่วไปของการรับข้าราชการเข้าทำงาน ถ้าสอบผ่านข้อเขียนก็จะได้สอบสัมภาษณ์ เพื่อพิจารณาในการรับเข้าทำงาน แต่ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่เปิดรับสมัคร ในส่วนตนยืนยันว่า ยังอยากทำงานเป็นนักพัฒนาเพราะได้ศึกษาเล่าเรียนมาในด้านนี้
ต่อคำถามที่ว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นที่สร้างคุณความดีแก่ประเทศชาติ และได้รับการบรรจุเข้าทำงานโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ เมื่อเทียบกับตัวเราที่ต้องสมัครสอบตามระบบปกติ น.ส.ปณิดา กล่าวว่า “รู้สึกน้อยใจและเสียความรู้สึกเหมือนกัน เพราะผู้ใหญ่ได้รับปากไว้แล้ว และหนูก็รอมาระยะหนึ่งแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่รอ เพราะช่วงที่เข้าพบนายกฯ ทางผู้ใหญ่ก็สอบถามว่าอยากทำงานอะไร เมื่อเรียนจบก็ให้โทรหา ทางท่านนายกฯ ก็บอกว่า เรียนจบก็ค่อยว่ากันว่าอยากทำงานอะไร ตอนนี้หนูก็เรียนจบแล้ว ก็ได้ติดต่อไปครั้งหนึ่ง ทางผู้ใหญ่ก็บอกว่า ให้สอบตามระบบ”
(น้องแบม เข้าพบนายกฯ ประกาศเกียรติคุณ เปิดโปงปมทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง)
ทั้งนี้ในช่วงที่ตกเป็นข่าวมีหน่วยงานที่เคยเสนอตำแหน่งงานมาให้ถึง 5 แห่ง ทั้งธนาคาร หน่วยงานทหาร และหน่วยราชการ แต่ตนได้ปฏิเสธงานของบางหน่วยไปเพราะต้องไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพราะขณะนี้ตนมีภาระต้องดูแลพ่อที่ป่วยและแม่ที่อายุมากแล้ว จึงไม่อยากทำงานไกลครอบครัว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า หากมีตำแหน่งงานของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ทำงานที่ จ.ขอนแก่น จะสนใจหรือไม่ น.ส.ปณิดา กล่าวตอบว่า ตนจะทำแน่นอนเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมาก็เคยคิดว่า จะไม่กลับไปทำงานที่นี่อีกแล้ว แต่เมื่อทบทวนอีกครั้งก็คิดว่า ช่วงที่ไปฝึกงาน ตนก็มีความผูกพันกับหน่วยงานแห่งนี้ ตนได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือคนจริงๆ ได้ไปดูสภาพความเป็นอยู่จริงๆ ของเขา ไปดูว่าเขาได้รับการช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ทำให้คิดว่า ถ้าเรียนจบแล้วเราอยากทำงานต่อ นี่เป็นสิ่งที่ตนคิดตั้งแต่ยังไม่เกิดเรื่องว่า ถ้าฝึกงานจบแล้ว เรียนจบแล้ว ตนจะมาสมัครทำงานที่นี่
หากถามวันนี้ว่า ตนตัดสินใจถูกหรือไม่ในการเปิดโปงการทุจริตเงินผู้ยากไร้ ก็ขอตอบว่า เป็นการตัดสินใจที่ถูกเพราะทำให้คนที่เดือดร้อนได้รับรู้สิทธิ์ของตนว่ามีอะไรบ้าง อย่างน้อยก็คือเรื่องเงินช่วยเหลือคนจน
ในตอนท้าย น.ส.ปณิดา ได้กล่าวถึงการทำงานของภาคประชาชนในการตรวจสอบการทุจริตว่า เราไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทุกคน แต่สิ่งที่อยากให้ทุกคนยึดหลักไว้คือ ความถูกต้องและความซื่อสัตย์ เพราะถ้าเรายึดปฏิบัติตามสอบคำนี้ เราก็จะมีคุณธรรม จริยธรรม ไม่ต้องให้ใครมาชี้ว่าผิด อยากให้ทุกคนมองดูตัวเองว่าสิ่งที่ทำถูกต้องแล้วหรือยัง บางครั้งการจ่ายเงินเล็กๆน้อยๆ ให้เจ้าหน้าที่แม้จะเป็นเงินเล็กน้อย แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการโกง
อ่านเพิ่มเติม
FB live “ปณิดา ยศปัญญา” แฉหมดเปลือก ขั้นตอนโกงเงินคนไร้ที่พึ่ง
