นครพนม – พิษโควิด-19 ห้ามไม่อยู่แรงงานลาว-เวียดนามไหลกลับประเทศแน่นด่าน ขณะผู้ว่าฯสั่งอนุโลมเปิดด่านให้กลับบ้านได้
หลังจากที่ทางการไทยได้ออกมาตรการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโควิด 19 ด้วยการสั่งปิดสถานบริการและสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการชุมนุมคนมากกว่า 50 คนทั่วทั้งกรุงเทพและปริมณฑล ส่งผลให้บรรดาแรงงานชาวต่างชาติเช่น ลาว และเวียดนามที่ต้องหยุดงานตามมาตรการดังกล่าวต่างพาเดินทางกลับบ้านเกิดที่ประเทศลาวและเวียดนาม
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2563 ที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดนครพนมได้มีแรงงานชาวลาวและเวียดนามต่างพากันนั่งรถโดยสารกลับมาจากกรุงเทพและปริมณฑลเป็นจำนวนมากซึ่งมีจำนวนสะสมในช่วงเช้าที่รถโดยสารทยอยเข้าสู่สถานีจนถึง 8 นาฬิกามีจำนวนมากกว่า 300 คน และรถเริ่มทยอยเข้ามาเรื่อย ๆจนนายสถานีต้องสั่งเร่งระบายคนให้ไปที่ด่านสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 นครพนม-แขวงคำม่วน เพื่อลดความแออัดขณะที่กลุ่มแรงงานต่างเข้าแถวรอซื้อตั๋วรถโดยสารระหว่างประเทศเพื่อเดินทางข้ามด่านเพิ่มปริมาณมากขึ้นนับพันคนซึ่งสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากก่อนหน้านี้ทางจังหวัดนครพนมเพิ่งออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด 19 ด้วยการสั่งปิดการเข้าออกของผู้คนและยานพาหนะทุกชนิดที่ด่านถาวรสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 โดยให้มีผลตั้งแต่ 22.00 น.ของวันที่ 22 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาจึงต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร
และต่อมานายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ว่า ได้สั่งการอนุโลมให้แรงงานเหล่านั้นสามารถเดินทางผ่านด่านได้ โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ประสานไปทางด่านตรวจคนเข้าเมืองของแขวงคำม่วน สปป.ลาว เพื่อรับตัวแรงงานเหล่านั้นแล้ว พร้อมได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งระบายรถบัสโดยสารให้เดินทางให้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อลดความแออัดที่สถานีขนส่งรวมทั้งที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่มีกลุ่มแรงงานชาวลาวและชาวเวียดนามต่างรอขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- รวบแล้ว 2 โจรพี่น้องฉกหวย-รถ จยย.แม่ค้าลอตเตอรี่ อึ้ง! ติดงอมเสพวันละ 20 เม็ด สารภาพนำไปแลกยา 100 เม็ด
- คณะกรรมาธิการการพลังงาน ลงพื้นที่ศึกษาผลกระทบฝุ่นควันชายแดน นครพนม บึงกาฬ
- นครพนมก้าวสู่ยุคดิจิทัลสุขภาพ! อบจ.นครพนม ผุดโครงการพัฒนาระบบบริการปฐมภูมิ พร้อมจัดตั้งศูนย์บริการแพทย์ทางไกล
- นครพนม : นรข. ติดตามขยายผลผู้ต้องหายาเสพติดพื้นที่อำเภอท่าอุเทน สร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: