ฉะเชิงเทรา – ร้อนระอุ ไฟลุกไหม้บ้านไม้เก่าแก่ ใกล้บ้านนักการเมืองใหญ่ตระกูลดัง กลางเมืองแปดริ้ว ทำเด็กหนุ่มตกใจกระโดดเผ่นหนีเอาตัวรอดลงมาจากตัวบ้านจนกระดูกข้อมือหัก สังกะสีบาด เจ็บ 2 ราย เบื้องต้นโทษไฟฟ้าลัดวงจร ขณะ จนท.เตรียมให้พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบหาความแน่ชัดอีกครั้ง
วันที่ 26 มี.ค.63 เวลา 12.30 น. ร.ต.อ.ทีปต์ ไม้ลึกดี รอง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านไม้สองชั้น เลขที่ 37/1 ถ.ศุภกิจ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งปลูกสร้างอยู่บนพื้นที่แนวรั้วติดกันกับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง สมาคมสงเคราะห์การกุศล จ.ฉะเชิงเทรา “เจ้าแม่กวนอิม ลอยน้ำ” เส้นทางถนนสาย ฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว ก่อนถึงปากซอยทางเข้าบ้านพักของนักการเมืองตระกูลดังประจำจังหวัด “ฉายแสง” เพียงประมาณ 300 ม. จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุพบเปลวเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง โดยมีรถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา จำนวน 5 คัน เข้าทำการควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด แต่ติดขัดเกี่ยวกับปัญหาในช่วงระหว่างการควบคุมเพลิงนั้น พบว่ายังคงมีกระแสไฟฟ้าที่ไม่ได้ถูกตัดโยงสายเข้ามายังที่ตัวบ้าน จึงทำให้การควบคุมเพลิงไม่สามารถทำได้โดยสะดวก จนทำให้เพลิงเผาไหม้บ้านไปจนหมดทั้งหลังเพียงเวลาประมาณ 30 นาที
โดยมี พ.ต.อ.ชาติ งานพิทักษ์ ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา เดินทางมายังในที่เกิดเหตุด้วย ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จาก กฟภ.ฉะเชิงเทรา จะเดินทางมาทำการตัดกระแสไฟฟ้าออก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานควบคุมเพลิงได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้นในภายหลัง
สอบถาม นายเอกรัตน์ ทัศน์ภักดิ์ อายุ 50 ปี อาชีพรับจ้าง เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุกำลังนั่งอยู่ที่บริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน ได้สังเกตเห็นควันไฟพุ่งออกมาจากบริเวณชั้นบนของตัวบ้าน จึงได้พากันวิ่งหลบหนีออกมายังภายนอก จากนั้นจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ โดยในบ้านหลังนี้อยู่อาศัยรวมกันมากถึง 10 คน เป็นลักษณะของครอบครัวใหญ่
ในช่วงเกิดเหตุการณ์นั้น ต่างคนได้ต่างพากันพยายามวิ่งหลบหนีเอาตัวรอด จนทำให้มีเด็กชาย อายุ 15 ปี กระโดดหนีลงมาจากตัวบ้าน จนแขนด้านซ้ายบริเวณใกล้ข้อมือหัก และถูกสังกะสีบาด และมีคนในบ้านได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 คน ขณะที่ทรัพย์สินภายในบ้านนั้น ไม่มีใครสามารถนำติดตัวออกมาได้ทัน จึงได้รับความเสียหายไปทั้งหมด โดยมีมูลค่ารวมกันประมาณ 1 ล้านบาท และเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
ด้าน ร.ต.อ.ทีปต์ ระบุว่า เบื้องต้นในขณะนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกองกำกับการพิสูจน์หลักฐานฉะเชิงเทรา ให้เข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ยังในที่เกิดเหตุอีกครั้ง ภายหลังเพลิงสงบแล้ว เพื่อจะได้ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: