พ.ต.อ.นฤนาท พุทไธสง รอง.ผบก.ภ.จว.ลพบุรี (หรือรองหน่อย) รหัสนามเรียกขานลพบุรี 5 ถึงกับควันออกหู เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่ ถนนสุระนารายณ์ วังเพลิง เพนียด และโคกสำโรง ว่าทำไม่ถึงได้เกิดบ่อยครั้ง ความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงต้องทุพลภาพมากมายในถนนเส้นนี้ โดยที่ไม่มีหนทางการแก้ไขให้กับพี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางนี้เลยหรือ ทั้งที่ถนนเส้นนี้ สายนี้เป็นเส้นทางหลักที่สามารถเดินทางออกไปยังจังหวัดทางภาคอีสานได้ มีผู้ใช้เส้นทางนี้วันละหลายพันคัน
ล่าสุดเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานักเรียนอายุตั้งแต่ 14-16 ปี ได้เสียชีวิตถึง 5 ราย จากรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง ชนท้ายรถเทรลเลอร์ ในช่วงเวลาพลบค่ำ สร้างความสลดหดหู่ให้กับเพื่อนนักเรียนด้วยกัน คุณครู และครอบครัว ที่ต้องสูญเสียลูกหลานอันเป็นที่รัก จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุในถนนเส้นนี้เกิดมาจากความมักง่ายของเจ้าของรถ การไม่ดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การไม่พัฒนาถนนหนทางให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และที่สำคัญไม่มีการอบรมให้ความรู้ด้านความประพฤติ คุณธรรม และการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ตระหนักถึงอันตรายทุกวินาทีที่ใช้ยวดยานพาหนะบนท้องถนน
ข่าวน่าสนใจ:
- สงขลา ไม่ทันลืมตาดูโลก! พบศพทารกเพศชายยัดถุงดำ ถูกทิ้งถังขยะ ย่านเมืองท่องเที่ยว
- นครพนม เปิดคลิป วัยรุ่น เหิมหนัก ยกพวกใช้มีดไล่ฟันคู่อริ พร้อมทุบทำลายทรัพย์สินอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- ผู้กำกับ สภ.บางเสาธง เชิญตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่รถชนกันแล้วมีอ้างรู้จักตำรวจ
ทันทีที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเสร็จ รองหน่อยได้ลงพื้นที่ อ.โคกสำโรงโดยทันที มีการเชิญนายอนันต์ จรุงโรจน์รัศมี นอภ.โคกสำโรง พ.ต.อ.ภูการวิก โชติกเสถียร ผกก.สภ.โคกสำโรง เจ้าหน้าที่แขวงการทางลพบุรี กต.ตร.จังหวัดลพบุรี ครูจากโรงเรียนในพื้นที่ อ.โคกสำโรง ชาวบ้าน รวมถึงครอบครัวของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิต ร่วมประชุมเพื่อพูดคุยถึงการเกิดอุบัติเหตุที่ผ่านมา ว่ามาจากสาเหตุใด หนทางการแก้ไขจะทำเช่นไร ซึ่งในการประชุมได้สรุปเพื่อเป็นแนวทางในการปฎิบัติในครั้งต่อไปถึงถนนสายอันตรายเส้นนี้ ว่าหากพบแม้นมีเพียงซากสุนัข ซากสัตว์ที่ตายอยู่บนพื้นที่ถนนต้องนำออกจากถนนทันที รถบรรทุกพ่วง รถไถนา รถเทรลเลอร์ ที่จอดอยู่ริมถนนลักษณะกีดขวางบนเส้นทางสุระนารายณ์
โดยที่ไม่มีผู้ประจำรถให้ใช้รถยกของตำรวจทางหลวงลพบุรี หรือรถยกของเอกชน ประสานตำรวจท้องที่ยกรถออกจากนอกเส้นทาง และเก็บเงินค่ารถยกที่เจ้าของรถ รถทุกชนิดที่ไฟท้ายริบหรี่ให้จอดและให้ดำเนินการเปลี่ยนจึงจะเดินทางต่อไปได้ และขอให้เจ้าหน้าที่แขวงการทางติดตั้งเสาไฟฟ้าส่องแสงสว่างเพิ่มเติม ซ่อมแซมในส่วนที่เสียหาย พร้อมทั้งกำชับให้ตำรวจในพื้นเพิ่มการตรวจให้เข้มข้นขึ้น และให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด
จากนั้นทั้งหมด ได้เดินทางมาที่หอประชุมโรงเรียนโคกสำโรงวิทยาเพื่อชี้แจงแนวทางการปฏิบัติสำหรับเด็กนักเรียนที่ใช้ยานพาหนะต่างๆ โดยมีวิทยากรมาให้ความรู้ คำแนะนำต่างๆ กับนักเรียนกว่า 1,200 คน และคณะครู ผู้ปกครองอีกว่า 300 คน โดยรองผู้การกล่าวถึงปัญหาที่เกิดนั้น สิ่งทีจับต้องมันเกินเด็กไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ บางรายมีใบขับขี่ แต่ส่วนใหญ่ยังไม่มีใบขับขี่ ถึงไม่มีความรู้ ทักษะ ทั้งในด้านความประพฤติ ด้านคุณธรรม และการป้องกัน
ฝากไปถึงผู้ปกครองช่วยกวดขันบุตรหลานอีกทาง ร่วมปลูกจิตสำนึกให้กับบุตรหลาน ให้รู้จักคิดเป็น ไม่ว่าการอยู่ร่วมกัน การใช้รถใช้ถนร่วมกับผู้อื่น ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ต้องเคารพกฎจราจร ฝากถึงคุณครูฝ่ายปกครองให้ช่วยกวดขันนักเรียนที่นำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์มาโรงเรียน ตรวจสอบว่านักเรียนคนใดมีใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ จักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อกมาหรือไม่ เพื่อเป็นแนวทางการป้องกันในเบื้องต้น และให้คำถึงถึงความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนให้มากที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: