ราชบุรี ในวันนี้ ( 30 มี.ค. 63 ) นางดวงสมร พฤฑฒิกุล เกษตรจังหวัดราชบุรี นายณฤทธิ์ บุญชัย เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่สวนองุ่นของเกษตรกรหมูที่ 1 ต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ และ พื้นที่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี หลังได้รับหนังสือร้องขอความช่วยเหลือกรณีองุ่นในพื้นที่ไม่มีพ่อค้า และแม่ค้าเข้ามารับซื้อ จากเกิดวิกฤต การแพร่ระบาดโรคโควิด -19 มีเกษตรกรปลูกอยู่ในพื้นที่ อ.บางแพ อ.ดำเนินสะดวก และ อ.เมือง รวม จำนวน 37 ราย พื้นที่ปลูกประมาณ กว่า 400 ไร่ ผลผลิตประมาณ 2,000 ตัน คาดว่าจะเก็บเกี่ยวได้ภายใน 7 วันข้างหน้า ขณะที่องุ่นเป็นผลผลิตสดมีอายุการเก็บรักษาได้ไม่นาน และยังออกพร้อม ๆ ในช่วงเดียวกัน เนื่องจากเกษตรกรได้วางแผนการผลิตให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงเทศกาลไหว้บรรพบุรุษของชาวไทยเชื้อสายจีน ( เทศกาลเชงเม้ง ) ประมาณวันที่ 4 เมษายนที่จะถึงนี้ แต่เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคดังกล่าว จำนวนผู้ติดเชื้อมีแนวโน้มสูงขึ้นทุกวัน ทำให้ผู้คนลดความเสี่ยงอยู่กับบ้าน เกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ไม่มีผู้รับซื้อ ส่งออกไม่ได้ ประสบปัญหาองุ่นยังเหลืออยู่ในสวนจำนวนมาก เกษตรกรบางรายปลูกประมาณ 40 ไร่ ลงทุนไปกว่า 2 ล้านบาท คาดว่าจะตัดขายช่วงเชงเม้งจะได้เงินประมาณ 4 – 5 ล้านบาท โดยจากการลงสำรวจสวนองุ่น พบว่าบางพวงเริ่มมีองุ่นสุกงอมและเริ่มมีลูกเน่าต้องเร่งปลิดทิ้ง หลายคนฝันสลาย เพราะคาดกันว่าจะตัดขายได้ราคากิโลกรัมละ 80 บาท ในช่วงเทศกาลเชงเม้ง ที่กำลังจะมาถึงในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้ แต่จนถึงขณะนี้องุ่นในสวนยังไม่ขยับ
เกษตรกรได้ประสานหลายหน่วยงาน มีการพูดคุยรับฟังปัญหาทราบว่าอยากให้มีการแปรรูปผลผลิต เช่น ประสานงานกับบริษัทผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เข้ามารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง หรือผ่านการประสานงาน หรือ ให้กระจายสินค้าติดต่อประสานหาตลาดที่ต้องการรับซื้อผลผลิต หรือหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรที่ไม่สามารถขายผลผลิตได้ และหามาตรการประกันราคาสินค้าเกษตร (องุ่น) ช่วยเหลือชาวสวนองุ่นด้วย
ด้านนายชัยโรจน์ เอกอัครธัญธรณ์ ตัวแทนเกษตรกรชาวสวนองุ่น อ.ดำเนินสะดวก และเป็นเกษตรกรชาวสวนองุ่น อ.บาแพ เปิดเผยว่า ผลผลิตออกมาช่วงนี้ตรงกับภาวะวิกฤตโควิด 19 ทำให้พ่อค้า แม่ค้าไม่มีรับซื้อ ขณะที่ผลผลิตมีมากกว่า 2,000 ตัน มูลค่า ประมาณ 70 ล้านบาท ที่จะออกมา แต่ไม่สามารถส่งออกไปขายตลาดได้ แต่ละช่วงที่ปลูกจะมีพ่อค้า แม่ค้าคนกลางมารับซื้อถึงหน้าสวนราคาต้นทุนประมาณกิโลกรัมละ 35 บาท แต่เวลานี้ไม่มีใครมารับซื้อเลย จึงอยากให้ภาครัฐประสานโรงงานอุตสาหกรรมที่ผลิตแอลกอฮอล์ เช่น โรงงานรีเจนซี่ ประสานชาวสวนนำไปแปรรูปไปผลิตแอลกอฮอล์ประเภทไวน์ได้
ส่วนนางดวงสมร พฤฑฒิกุล เกษตรจังหวัดราชบุรี เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือร้องเรียนจากเกษตรกรถึงความเดือดร้อน องุ่นระบายไม่ได้ ด้วยเหตุการณ์เกิดเชื้อโควิด -19 สิ่งที่คาดหวังด้วยจำนวนผลผลิตที่มีจำนวนมาก ทำให้ทุกหน่วยงานต้องผนึกกำลังเข้าช่วยเหลือ ส่วนหนึ่งเกษตรกรยังได้ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนหนึ่งประสานโรงงานเข้ามารับซื้อในการผลิตเป็นไวน์ ส่วนหนึ่งปริมาณ ที่ตกค้างอยู่มาก จึงประสานกับ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีราชบุรี จำกัด เข้ามากระจายสินค้าอีกส่วนออกเป็นการขายระบบออนไลน์ ใส่กล่องขนาด 10 กิโลกรัม ส่งตรงถึงบ้าน ในราคากล่องละ 500 บาท รวมค่าขนส่งด้วย และคงต้องดูว่าสวนไหนที่ปลูกและได้ระยะการตัดขายได้ก่อนก็จะเร่งดำเนินการระบายสินค้าช่วยแต่ละสวนไปก่อน
ข่าวน่าสนใจ:
ด้านนายราเชน สุกหวานอารมณ์ ในนามคณะกรรมการ บริษัท ประชารัฐรักสามัคคีราชบุรี จำกัด ได้ทำเพจของประชารัฐรักสามัคคีราชบุรีขึ้น เชื่อมโยงกับจังหวัดต่าง ๆกระจายไปทั่วประเทศ ให้แต่ละจังหวัดให้ช่วยซื้ออย่างน้อยจังหวัดละ 100 กล่อง ๆ ละ 10 กิโลกรัม หรือ ประมาณ 1 ตัน เป็นการช่วยกระจายสินค้าอีกทางหนึ่ง อยากให้ผู้บริโภคของดีได้คุณภาพ สามารถสั่งได้ที่บริษัทประชารัฐรักสามัคคีราชบุรี ของแต่ละจังหวัดที่ประชาชนอาศัยอยู่ได้ โดยแต่ละจังหวัดจะสั่งเข้ามาที่ จ.ราชบุรี หรือสั่งทางออนไลน์ก็มีบริการภายในเวลา 2 วัน ถึงที่หน้าบ้านลูกค้าทุกคนที่สนใจ
สำหรับประชาชนที่สนใจอยากจะสั่งซื้อองุ่นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกองุ่น จ.ราชบุรี สามารถสั่งซื้อได้ในระบบออนไลน์ หรือ ติดต่อ ไปที่บริษัทประชารัฐรักสามัคคีราชบุรี จำกัด หรือ ติดต่อได้ที่ เบอร์ 096 – 0400272
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: