X

เยี่ยม!!สุราษฎร์ฯ ไม่พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มเป็นวันที่ 5 แล้ว ขณะที่พ่อเมืองคนดี สั่งปิดศูนย์การค้า-ตลาดนัด เริ่ม 1-15 เม.ย. นี้

สุราษฎร์ธานี-ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ข้อมูล COVID-19 จังหวัดสุราษฎร์ธานีประจำวันที่ 1 เม.ย.2563 ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มเป็นวันที่ 4 แล้ว ผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค 213 ราย (+6ราย) ส่งตรวจไม่พบเชื้อ 193 ราย รวมผู้ป่วยยืนยันสะสม 13 รายเช่นเดิม (กลับบ้าน 8 ราย / รักษาตัวที่ รพ. 5 ราย)รอผลการตรวจ 7 ราย  ส่วนผู้ป่วยหนักซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรก 1 รายอาการดีขึ้นตามลำดับโดยผู้ป่วยยืนยันสะสม แยกรายอำเภอ ประกอบด้วย อ.เมือง 4 ราย/อ.กาญจนดิษฐ์ 3 ราย/อ.เวียงสระ 2 ราย/อ.เกาะสมุย 2 ราย/อ.เกาะพะงัน 1 ราย และ อ.ท่าชนะ 1 ราย

ขณะที่นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 2057/2563 ให้ปิดสถานที่บางประเภทในพื้นที่เป็นการชั่วคราว (เพิ่มเติม) ตั้งแต่วันที่ 1 -15 เมษายน 2563 ประกอบด้วย ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าทุกประเภท ยกเว้นแผนกซุปเปอร์มาเก็ต ร้านขายยา หรือสินค้าเบ็ดเตล็ด ศูนย์บริการโทรศัพท์มือถือ ธนาคาร ร้านอาหารให้เปิดเฉพาะจำหน่ายเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น
นอกจากนี้ให้ปิดตลาด /ตลาดนัด และตลาดเปิดท้าย ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารสด

อาหารแห้ง /อาหารปรุงสำเร็จ เพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น อาหารสัตว์ ร้านขายยา ร้านดอกไม้สด เวชภัณฑ์และสินค้าเบ็ดเตล็ดเพื่อความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต รวมทั้งร้านอาหารหรือเครื่องดื่มทุกประเภท ให้เปิดเฉพาะการจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น และร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในโรงแรมที่ให้บริการเฉพาะผู้ที่พักอาศัยในโรงแรม ยกเว้นร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในสนามบินและโรงพยาบาล โดยต้องจัดสถานที่ให้เป็นไปตามแนวทางการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโดยเคร่งครัด
                         สำหรับ ร้านสะดวกซื้อ และร้านค้าเบ็ดเตล็ด ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 24.00 น. ถึง 05.00 น. ต้องจัดให้มีการคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าร้าน มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ การกำหนดจุดยืนการรอคิวชำระเงินห่างอย่างน้อยคนละ 1 เมตร มีการทำความสะอาดอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการ ผู้ร่วมงาน ผู้ร่วมกิจกรรม ลูกจ้าง ผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า และให้ควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการมิให้แออัด หรือลดเวลาทำกิจกรรมให้สั้นลงโดยหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสกัน หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้เป็นความผิดตามมาตรา 18 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน