จังหวัดน่าน ในสถานการณ์ที่หลายภาคส่วนระดมทั้งทรัพยากรด้านต่างๆ เพื่อร่วมมือร่วมใจกันป้องกันพื้นที่ไม่ให้โรคติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ระบาดในพื้นที่ ที่ส่งผลทำให้ปอดเสียหาย แต่ในทางกลับกัน กับมีมือดีเร่งเผาสร้าง PM2.5 ตกลงเราจะรอดไหม
ข่าววันนี้ น่าน วันที่ 1 เมษายน 2563 จังหวัดน่าน โดยนายวรกิตติ ศรีทิพากร ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้เป็นผู้คอยบัญชาการให้หน่วยงานและภาคส่วนต่างๆ ที่ทำงานกันอย่างแข็งขัน และร่วมมือกันเป็นอย่างดี เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรงติดเชื้อไวรัส โคโรนา สายพันธุ์ โควิด 19 และยังรักษาพื้นที่จากไม่กี่แห่งที่ยังคงไม่พบผู้ติดเชื้อ
โดยมีมาตรการต่างๆ เพื่อไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค และ 1 ในมาตรการนั้น คือ การงดการทำกิจกรรมร่วมกัน อยู่บ้านช่วยชาติ จึงพากันอยู่บ้าน ไม่ออกสัญจรไปไหนโดยไม่จำเป็น อยู่บ้านพี่ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อง่ายต่อมาตรการควบคุมโรค
แต่นั้น กับมีคน ที่จะใช้คำว่าไร้จิตสำนึกก็อาจเป็นคำที่มีความหมายเกินไป จึงไม่สามารถจำกัดความได้ เห็นเป็นช่องทาง เห็นเป็นโอกาส เห็นเป็นช่วงเวลาเหมาะสำหรับตน แอบลักลอบเผาไร่ เผาเศษวัชพืช จนลุกลอมใหญ่โตกลายเป็นไฟป่า
ทำให้เกิดฝุ่นควัน และหมอกควันจากการเผาไหม้ เต็มอากาศจนค่า PM2.5 แดงติดต่อกันมาหลายวัน ในช่วงเวลาที่ทุกคน ให้ความร่วมมืออยู่บ้าน และหน้ากากชนิดป้องกันฝุ่นควันพิษ PM2.5 ที่ทุกวันคือสิ่งที่เคยเห็น แต่การหาซื้อนั้นไม่ต้องพยายามค้นหา เพราะหน้ากากธรรมดายังยากยิ่ง
ต้องเดือดร้อน หายใจแสบคอแสบจมูก อยู่เฉยในบ้านยังแสบตา นี่เกิดอะไรนี่เป็นการกระทำซ้ำเติมในภาวะที่ทุกคนกลัว ที่ทุกคนเสียขวัญ แต่พวกท่านที่ทำเพื่อสิ่งใด เพื่อให้ส่วนรวมที่ทำตามมาตรการป้องกันโรค อยู่แบบทุกข์ทรมารจากทั้งความกลัวและสูดดมควันพิษอย่างนั้นหรือ
เราไม่กล่าวโทษ ถึงเจ้าหน้าที่ ที่เขาทำงานได้ดีอยู่แล้ว เพราะปัจจุบันเจ้าหน้าที่ก็เร่งดำเนินการอย่างเข็งขัน เพื่อเร่งสะกัดดับไฟที่ลุกลามอยู่ในป่า ที่เหนือดเหนื่อยมากมายอยู่ในเวลานี้ ทั้งเจ้าหน้าที่ที่คอยป้องกันโรคโควิด แล้วท่านละไม่ได้ทำการอันใดให้ก่อเกิดประโยชน์ กับสร้างผลเสียมากมายเราต้องเร่งปรับเปลี่ยนวิธี แทนที่จะดับไฟที่ป่า เราควรเร่งดับไฟที่คน
แม้แต่เหตุการณ์ล่าสุด เผ่าไร่ในเขตอำเภอเมือง จนวุ่นวายโกลาหล จนแตกตื่นไปทั่วทั้งชุมชน พอสถานการณ์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ก็ยังมีคนเห็นว่ายังไปเผา แต่ดีที่เผาแบบเกลี่ย แล้วก็เกิดการตั้งคำถามขึ้นมาในสังคมว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยหรือ แล้วห้ามทำไม ผลก็คือคนนั้นเผาได้ ฉันก็ต้องเผาได้ เกิดความเดือดร้อนแสนสาหัส ทั้ง 15 อำเภอ
ท้ายที่สุดคนรับผลกรรมคือชาวบ้านที่ต้องทนความกลัวไปออกไปไหนเพื่อป้องกันโควิด แต่ทนทุกข์ทรมานจากการกระทำที่ เป็นความเห็นแก่ตัวที่เลวร้ายที่สุดที่เคยพบมา โควิดที่ว่ายังรักษามีโอกาสหายมากกว่า การสูดดมอากาศที่มีค่า PM2.5 ที่จะทรมานติดตัวจนวันตาย
77ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดน่าน รายงาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: