ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์- เรียกประชุมถกมาตรการรับมือโควิด-19 หลังผลตรวจเชื้อโควิด ชายชาวนราธิวาสเสียชีวิตบนขบวนรถไฟที่ทับสะแก ติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายที่ 13 และเสียชีวิตเป็นรายแรกของประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเสียชีวิตบนขบวนรถไฟ โดยไม่ผ่านกระบวนการรักษาทางโรงพยาบาล และยังมีรายล่าสุดเป็นชาวเบลเยี่ยม อายุ 58 ปี เดินทางมาจากประเทศแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในหัวหิน ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 14 ราย
วันที่ 1เมษายน2563 นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรณีผู้ป่วยชาวมุสลิม ที่เสียชีวิต 1 ราย บนรถไฟขบวนรถด่วนที่ 37 บางซื่อ – สุไหง โกลก โบกี้ที่ 4 เลขที่นั่ง 28 เมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 31 มีนาคม คือ นายอนันต์ สาเหาะ อายุ 57 ปี ชาว จ.นราธิวาส ซึ่งเดินทางกลับจากทำธุรกิจที่ประเทศปากีสถานซึ่งเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2563 และเดินทางต่อที่สถานีรถไฟบางซื่อ กทม. ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงการแพร่ระบาด ทั้งนี้ระหว่างเดินทางถึงสถานีรถไฟหัวหิน มีอาการเป็นลม เมื่อสอบประวัติพบว่าเป็นโรคเบาหวาน กระทั่งนายสถานีมาพบอีกครั้ง ผู้ป่วยเสียชีวิตแล้วเมื่อถึงสถานีรถไฟทับสะแก จึงแจ้งโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 30 มีนาคม 2563 ทางทีมโรงพยาบาลทับสะแก ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บตัวอย่าง สารคัดหลั่งในโพรงจมูก ตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากนั้นนำร่างของผู้เสียชีวิตใส่ถุงซิปล็อค 3 ชั้น ก่อนจะประสานภรรยาที่ จ.นราธิวาส เพื่อดำเนินการต่อตามประกาศที่ท่านจุฬาราชมนตรีได้ประกาศว่า ให้ดำเนินการป้องกันการติดเชื้อโควิดสำหรับผู้เสียชีวิตที่สงสัยว่าติดเชื้อ ซึ่งทางญาติตัดสินใจประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยนำร่างฝังที่ อ.ทับสะแก โดยขุดหลุมฝัง 2 เมตร มีการโรยปูนขาวหนึ่งครั้งก่อนนำร่างมาไว้กลบหลุมแล้วโรยปูนขาวอีกชั้น แล้วจึงกลบด้วยดินสูง 2 เมตร เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563 นั้น ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวอย่างทั้งหมดเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.สมุทรสงคราม ตั้งแต่วานนี้
ล่าสุดผลตรวจออกมาแล้ว ยืนยัน ชายชาวนราธิวาส ติดเชื้อโควิด 19 เป็นรายที่ 13 ของ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งชายคนดังกล่าว ไม่ใช่ประชาชนชาวประจวบคีรีขันธ์ แต่เดินทางผ่านเพื่อกลับบ้านที่ภาคใต้ด้วยขบวนรถไฟแต่มาเสียชีวิตเสียก่อน
ด้านนายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนผู้สัมผัสเชื้อ ซึ่งเป็นผู้โดยสารร่วมตู้รถไฟประมาณ 20 คน ซึ่งขณะนี้มีรายชื่อทั้งหมดแล้ว โดยมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยรายที่ 13 ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกบนขบวนรถไฟนั้น เริ่มปรากฎอาการป่วยที่ สถานีรถไฟบ้านโป่ง ผู้โดยสารทั้งหมดในตู้จึงย้ายไปนั่งที่ตู้อื่นแทน ในตู้ดังกล่าวจึงเหลือผู้ป่วยในตู้เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ตรวจไม่พบว่ามีไข้ จึงเดินทางต่อ โดยมาเป็นลมที่สถานีรถไฟหัวหิน และเสียชีวิตที่สถานีรถไฟทับสะแกดังกล่าว
ทั้งนี้เมื่อผลแล็ปยืนยันเชื้อออกมาแล้ว ว่าติดเชื้อโควิด 19 จึงได้ประสานจังหวัดปลายทางติดตามผู้สัมผัสเชื้อต่อ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกของจังหวัดที่ติดเชื้อโควิด-19 โดยขั้นตอนการฝังศพดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคทั้งหมด คงเหลือเฝ้าระวังผู้สัมผัสโรคเท่านั้น
พร้อมกันนี้ การประชุมสถานการณ์และการป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019โควิด- 19 ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการระบาดในหมู่ประชาชนในเขตจังหวัดแต่อย่างใด ขอให้ทุกฝ่ายที่ดูแลป้องกันโรคโควิด -19 ดำเนินการตามมาตรการและแผนที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำหนดอย่างเคร่งครัดทุกประการ และหากมีการฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมายในทันที โดยอำเภอหัวหินการตั้งจุดคัดกรองที่ถนนเพชรเกษม บริเวณสนามบินหัวหิน และถนนบายพาส หน้าที่ว่าการอำเภอหัวหิน โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองหัวหิน ตำรวจ สภ. หัวหิน ตำรวจทางหลวง สาธารณสุขอำเภอ กลุ่มจิตอาสา และอีกหลายหน่วยงาน ร่วมสนธิกำลังตั้งด่านตรวจคัดกรองผู้เดินทางผ่านเข้าและออกหัวหิน ด้วยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และซักประวัติการเดินทาง ที่ผ่านมาไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้กำชับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประสานไปยังมูลนิธิกู้ภัยทุกแห่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีมาตรการป้องกันในการเข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยง เพื่อลดอันตรายในการติดเชื้อสำหรับผู้ปฏิบัติงาน และอาจให้กู้ภัยทุกรายสวมเครื่องป้องกันอย่างมิดชิด
ขณะที่ผู้ติดเชื้อสะสมในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็น 14 ราย รายล่าสุดเป็นชาวเบลเยี่ยม อายุ 58 ปี เดินทางมาจากประเทศอัฟริกาใต้ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศเสี่ยง ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในหัวหิน
#77ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ (วิมล ทับคง รายงาน)
