หนุ่มวิศวะ ตามจีบสาว แต่สาวไม่เล่นด้วย แอบใช้สีสเปรย์พ่นรถชาวบ้านที่จอดอยู่ในซอยชุมชนสะพานเขียว ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เสียหายเกือบ 10 คัน จากการตรวจสอบพบว่าเคยก่อเหตุทำนองเดียวกันมาแล้ว 2-3 ครั้ง
ตามที่ในโซเชียลได้มีการนำภาพความเสียหายเป็นระยนต์เก๋งและรถยนต์กระบะจำนวนหลายคันที่จอดไว้ริมถนน ถูกพ่นด้วยสีสเปรย์สีแดงพ่นใส่รถได้รับความเสียหายเกือบทั้งคันไม่เว้นแม้แต่ตู้เติมเงินโทรศัพท์ที่อยู่ข้างทาง ก็โดนสีสเปรย์พ่นได้รับความเสียหายเช่นกัน โดยระบุว่าเหตุเกิดเมื่อกลางดึกเมื่อคืนนี้ภายในซอยชุมชนสะพานเขียว ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ โดยมีกล้อวงจรปิดบันทึกภาพผู้ก่อเหตุกำลังใช้สีสเปรย์พ่นใส่รถของชาวบ้านเป็นหลักฐาน โดยพ่นที่อักษรคำว่า “กระหรี่ปู”
เมื่อช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายในซอยชุมชนสะพานเขียว ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้พบกับนางกัญญา จันทะเริง อายุ 39 ปี หนึ่งในเจ้าของรถยนต์กระบะ ที่เสียหาย ได้เล่าว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืน ตนและผู้เสียหายรายอื่น ๆ พึ่งมาทราบเรื่องในตอนสายของวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีรถชาวบ้านถูกพ่นสีแบบนี้มาแล้วครั้งนี้แต่เมื่อหลายเดือนแล้ว แต่ก็ไม่ถึงขนาดนี้ ครั้งนี้หนักว่าเพื่อน ซึ่งคนที่ก่อเหตุก็ไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่มีชาวบ้านในละแวกนั้นบอกให้ลองไปหาคนที่ถูกพ่นชื่อไว้บนรถ น่าจะรู้ว่าคนก่อเหตุเป็นใคร ซึ่งน้องคนที่ถูกระบุชื่อก็มาดูให้ แต่น้องเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เราก็เลยพากันไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.สำโรงใต้ เอาไว้เพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี ซึ่งทุกคนก็กังวลว่าผู้ก่อเหตุจะกลับมาทำอีก เราต้องมาเคลมต้องมาเสียเงิน ต้องทำสีใหม่ทั้งคัน เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นกับรถคันอื่น เขาโดนมาก่อน แต่ในครั้งนี้โดนกันหลายคัน
ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ได้เชิญตัว น.ส.ปู ที่มีการพ่นชื่อไว้บนรถของผู้เสียหายมาสอบถามข้อเท็จจริง โดย น.ส.ปู ได้เล่าว่า ที่บ้านมีคนมาก่อกวนและพ่นสีใส่รถชาวบ้านก็เลยมาแจ้งความ ซึ่งผู้ก่อเหตุเคยคุยและมาติดพันตนอยู่ และเลิกติดต่อกันมาได้สักพักหนึ่ง เขาก็เลยมาทำแบบนี้ เขาทำงานเป็นวิศวะเท่าที่คุยกันอยู่ ซึ่งทุกครั้งที่คุยกันเวลาที่ตนโมโหหรือวีนใส่หนัก ๆ เขาก็จะด่าเลย โดยก่อนที่จะเกิดเหตุเมื่อคืนนี้เขาก็โทรมาหาตนหลายครั้งทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ตนไม่ได้รับสาย จนตนทนไม่ไหวจึงรับสาย และบอกไปว่าขอให้ตนพักผ่อนบ้างเถอะอย่าโทรมารบกวนเลย ก็เลยเชื่อว่าเขาน่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้เขาก็เคยก่อเหตุทำนองเดียวมาแล้ว 2-3 ครั้ง ซึ่งตัวเขาเองก็ยอมรับว่าเป็นคนทำเอง และในครั้งนี้เขาก็รับและบอกว่าขอโทษ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานและสอบพยานในละแวกใกล้เคียง เพื่อเป็นหลักฐานในการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
