นครพนม – “Lockdown” ห้ามเข้า-ออกพื้นที่ เป็นจังหวัดที่ 15 ของประเทศ รวม 18 วัน ดีเดย์ 13 เมย.นี้
วันที่ 9 เมษายน 2563 เวลา 09.30 น. ณ ห้องศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครพนม(ศปก.ฯ) ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังใหม่) นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าจากสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ที่ยังคงพบผู้ป่วยอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล และในอีกหลายจังหวัดทางภาคใต้ ภาคตะวันออก กอปรกับกำลังจะเข้าเทศกาลสงกรานต์ ถึงแม้จะไม่ใช่วันหยุดแต่มีการคาดการณ์กันว่า จะมีคนเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งจะทำให้การแพร่เชื้อของโรคขยายเพิ่มมากยิ่งขึ้น อันจะนำมาซึ่งความเสียหาย และเป็นอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนอย่างร้ายแรง
ผวจ.นครพนม กล่าวต่อที่ประชุมว่า เพื่อเป็นการระงับยับยั้งความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 และข้อ 7(1) ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 25 มีนาคม 2563 และฉบับที่ 2 ลงวันที่ 2 เมษายน 2563
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จึงเสนอคำสั่งห้ามบุคคลเดินทางเข้า-ออก ข้ามเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การทำให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค การป้องกันโรค การขนส่งสินค้าที่จำเป็น สินค้าอุปโภค บริโภค อุปกรณ์เครื่องมือเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ยานพาหนะเพื่อการกู้ชีพ กู้ภัยฉุกเฉิน รถพยาบาลและยานพาหนะของทางราชการ หรือได้รับอนุญาตจาก ผวจ.ฯ หรือผู้ที่ได้มอบหมายจาก ผวจ.นครพนม เป็นกรณีไป
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับบุคคลที่จะได้รับการยกเว้น ต้องปฏิบัติตามมาตรการนี้ กรณี”เดินทางเข้า”มาในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายในท้องที่ที่ด่านตรวจคัดกรองตั้งอยู่
ส่วนกรณีต้อง”เดินทางออก”จากพื้นที่จังหวัดนครพนม ต้องได้รับอนุญาตจากนายอำเภอท้องที่ หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมาย ในท้องที่ที่ผู้ขออนุญาตมีภูมิลำเนาหรือมีถิ่นที่อยู่นั้นๆ
กรณีเป็นข้าราชการ พนักงานราชการ และลุกจ้างของส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐต้นสังกัด ออกหนังสือรับรองการปฏิบัติงานที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้า-ออก พร้อมบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวพนักงาน แสดงต่อเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เพื่อพิจารณาให้บุคคลนั้นเดินทางเข้า-ออก ในเขตพื้นที่จังหวัดนครพนม และบุคคลที่ได้รับการยกเว้น ต้องอยู่ภายใต้บังคับของข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2 และต้องปฏิบัติตามมาตรการ ในการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด
อนึ่ง เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยไว้เนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดผลเสียหายร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้ง ตามมาตรา 30 วรรคสอง(1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539
หากผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งนี้ จะมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ 2558 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหรือเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2563 จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น
ทั้งหลายทั้งปวงที่มีความจำเป็นต้องล็อกดาวน์ทั้งจังหวัดนครพนม เกิดจากกรณีสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยส่งผลกระทบไปทั้งประเทศ ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องยกระดับความเข้มงวดในการคัดกรองผู้ที่จะเดินทางเข้าพื้นที่หรือผ่านพื้นที่
เดิมทีมีทั้งหมด 14 จังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกประกาศล็อกดาวน์ (Lockdown) ห้ามคนเข้าออก เว้นแต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาล การขนส่งสินค้าจำเป็น สินค้าอุปโภคบริโภค ฯลฯ หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อเป็นกรณีไป และผู้ที่ได้รับการยกเว้นจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด ซึ่งนครพนมเป็นจังหวัดลำดับที่ 15 ที่มีการล็อกดาวน์ห้ามบุคคลเข้า-ออก เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19
สำหรับ 15 จังหวัดที่มีการประกาศล็อกดาวน์(Lockdown) ดังนี้
1.เชียงราย ระหว่าง 9-30 เมษายน 2563
2.ตาก ระหว่าง 2-16 เมษายน 2563
3.น่าน ระหว่าง 5-30 เมษายน 2563
4.แพร่ ระหว่าง 10-17 เมษายน 2563
5.ตราด ระหว่าง 4 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
6.บึงกาฬ ระหว่าง 7-30 เมษายน เป็นต้นไป
7.ภูเก็ต ระหว่าง 30 มีนาคม-30 เมษายน 2563
8.สงขลา ระหว่าง 6-30 เมษายน 2563
9.สตูล ระหว่าง 3-30 เมษายน 2563
10.ปัตตานี ระหว่าง 28 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
11.ยะลา ตั้งแต่ 29 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
12.นราธิวาส ตั้งแต่ 29 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป
13.เมืองพัทยา ตั้งแต่ 9 เมษายน 2563 เป็นต้นไป (อย่างน้อย 21 วัน)
14.ระนอง ตั้งแต่ 8 เมษายน 2563 เป็นต้นไป
15.นครพนม ระหว่าง วันที่ 13-30 เมษายน 2563
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: