ชุมพร-ระดมช่วย!! นักรบเสื้อกาวน์ N95 PPE ขาดหนัก
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 9 เมย.63 ที่ รพ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร คณะกรรมการ มูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวน นำเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ เพื่อ ใช้ในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส โควิด 19 โดยมี นพ.ศักดิ์สิทธิ์ มหารัตนวงศ์ ผอ.รพ.หลังสวน พร้อมแพทย์ พยาบาล ฝ่ายบริหารของ รพ.หลังสวน ร่วมให้การต้อนรับ
คณะกรรมการมูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวน นายปรีชา สุวีรานุวัฒน์ ประธานชมรม กำนัน- ผญบ.อ.หลังสวน ได้นำเจลแอลกอฮอล์ 10 ลัง จำนวน 300 ขวด และแอลกอฮอล์ 99% จำนวน 6 ถัง ๆ ละ 30 ลิตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะแพทย์ พยาบาล จนท.สธ.ของ รพ.หลังสวน ใช้ปกป้องบุคลากรทางการแพทย์ ให้สามารถทำหน้าที่ในการดูแลผู้ป่วยทั้งจาก ไวรัสโควิด-19 และผู้ป่วยทั่วไป นพ.ศักดิ์สิทธิ์ มหารัตนวงศ์ ผอ.รพ.หลังสวน กล่าวว่า”เจลล้างมือ และ แอลกอฮอล์ เป็นยาฆ่าเชื้อที่มีความจำเป็นมาก แอลกอฮอล์ จะนำมาทำเป็นเจลล้างมือและสเปรย์พ่น เพื่อทำความสะอาดสถานที่ต่าง ๆ ของ รพ. ต้องขอบคุณมูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวนเพราะสิ่งที่นำมามอบให้ในครั้งนี้มีความจำเป็นอย่างมาก ” สิ่งที่ขาดแคลนอย่างเร่งด่วน คือ ชุด PPE และหน้ากาก N95 เพราะต้องใช้ในการดูแลผู้ป่วย ใน รพ.หลังสวน มีผู้ป่วยติดเชื้อ 1 ราย และ ผู้ที่ต้องเฝ้าดูอาการอีกหลายราย อุปกรณ์ หน้ากาก N95 และ ชุด PPE ยังมีไม่เพียงพอ ท่านใดมีจิตกุศล ขอเชิญบริจาคได้โดยตรงที่ รพ.หลังสวน”
ข่าวน่าสนใจ:
ทางด้าน นพ.ธัญธร ตันติพิระยะกิจ ได้นำไปดูจุดคัดกรอง ที่เป็นจุดเริ่มต้น มีพาทิชั่นแผ่นอะคริลิคเพื่อป้องกันผู้ตรวจและผู้ป่วย ซึ่งได้รับบริจาคจาก มูลนิธิลุ่มน้ำหลังสวน จนครบทุกจุด ใน รพ.หลังสวน ซึ่งจะได้รับการออกแบบให้เหมาะสมในแต่ละจุดนั้น ๆ” ในส่วนความกังวลทางด้าน สวัสดิภาพของบุคคลากรทางแพทย์นั้น อยากจะขอร้องให้ผู้ป่วยเปิดเผยข้อมูลจริงให้กับแพทย์ เพื่อจะได้ตรวจรักษา และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ ในขณะนี้ ในส่วนของแพทย์ พยาบาลและ จนท.ของ รพ.ยังไม่มีใครต้องได้รับการกักตัว มีกำลังใจดี และ พร้อมจะต่อสู้ต่อไป”
ในส่วน ของ นางวาสนา แสงสุวรรณ หัวหน้างานผู้ป่วยนอก พยาบาล ที่รับผิดชอบศูนย์คัดแยกโรคทางเดินหายใจ ไวรัสโควิด19 กล่าวว่า ได้เปิดศูนย์มาครบ 1 เดือนพอดี ใช้กำลังคนของ รพ.เยอะมาก เนื่องจากเป็นงานที่ต้องละเอียดและซักถามเป็นเวลานาน เพื่อให้ได้ผู้ป่วยที่มีโอกาสติดเชื้อให้ได้มากที่สุด สิ่งเป็นปัญหาคือเรื่องการให้ประวัติของผู้ป่วย เนื่องจาก มีการเปิดเผยรายละเอียดของผู้ป่วยในสื่อโซเซียลมาก ทำให้ผู้ป่วยเกิดความกังวลว่าสังคมจะรู้เรื่องของตนเอง ทำให้ต้องชักประวัตินานอย่างน้อย 5 นาที แต่ยังดีที่มี พาร์ทิชั่นมากั้นระหว่าง จนท.กับผู้ป่วยทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น แต่บุคลากรทุกคนมีความกังวลเรื่องการติดเชื้อ ถ้าได้ข้อมูลจริงไม่ครบก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ ส่วนอุปกรณ์ที่ต้องการเร่งด่วนในส่วนงานซักประวัติได้รับการสนับสนุนทั้งจากราชการและ ที่ปชช. บริจาค แต่ก็ ต้องประหยัดเพราะไม่รู้ว่า โรคนี้จะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ในขณะนี้ทั้งแพทย์และพยาบาลจะเตรียมตัวตลอด 24 ชม.ทั้งที่อัตรากำลังขาดอยู่แล้ว แต่ถ้ามีผู้ติดเชือ ก็ ต้องจัดกำลังเข้ามาช่วยกันดูแล จนกว่าคนไข้จะมีอาการปกติ ถึงแม้มีอัตรากำลังน้อยก็ต้องทำ อยากบอกปชช.ว่าการไม่เคลื่อนย้ายสถานที่ การอยู่บ้าน จะดีที่สุด รักษาความสะอาด การล้างมือ การใส่หน้ากาก จะช่วยให้โรคนี้ลดลงได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเราช่วยกันอย่างจริงจัง ใน1 เดือนน่าจะลดโรคนี้ลงได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: