นครปฐม : หญิงชาวพม่าชะตาขาด วิ่งข้ามถนนไม่ระวัง ถูกกระบะบรรทุกน้ำมะพร้าว หนักกว่า 3 ตัน พุ่งชน ร่างมุดเข้าไปติดใต้ท้องรถ ถูกบดขยี้แหลกเหลว จนหนังศีรษะหลุดกลางถนน ตายสยองเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ ต้องใช้เวลากู้ศพนานกว่า 40 นาที
อุบัติเหตุชนสยองรายนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.20 น.วันที่ 10 กันยายน 2561 ร.ต.ท.หญิง พิชญพิมพ์ สุทธิวงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งเหตุมีรถชนคนตาย ที่ถนนสายบ้านแพ้ว-พระประโทน ขาเข้าตัวเมืองนครปฐม บริเวณด้านหน้าโรงงาน บริษัท วิริยะกิจอุตสาหกรรม จำกัด หมู่ 7 ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จึงพร้อมด้วย พร้อมแพทย์จากโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม รุดไปยังที่เกิดเหตุ
พบรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บพ 2527 เพชรบุรี บรรทุกน้ำมะพร้าวหนักรวมกว่า 3 ตัน สถาพฝากระโปรงรถด้านหน้ายุบ ห่างจากท้ายกระบะมาบนถนน พบหนังศีรษะส่วนหนึ่งถูกถลกหลุดออกจากศีรษะ และตกอยู่ที่พื้นกลางถนน มีรอยเลือดลากเป็นทางยาว ใต้ท้องรถยนต์กระบะพบศพคนตาย เป็นหญิงวัยกลางคน ทราบชื่อคือ นาง OHAN MAR SAN อายุ 40 ปี (ชาวเมียนมาร์) สภาพร่างแหลกเหลว มีเพื่อนๆชาวพม่ามามุงดูกันเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถามนาย KYAW SWAR HLAING (ชาวเมียนมาร์) อายุ 39 ปี สามีผู้เสียชีวิต กำลังอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ และเพื่อนๆ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุว่า นาย KYAW SWAR HLAING และ นาง OHAN MAR SAN ทั้งสองผัวเมีย ทำงานอยู่ที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร วันนี้ได้เดินทางมาเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานโรงงาน บริษัท วิริยะกิจอุตสาหกรรม จำกัด และกำลังจะเดินทางกลับ
ขณะเดินข้ามถนน เพื่อไปรอรถเมล์ โดยมีนาย KYAW SWAR HLAING เดินนำหน้า และ นาง OHAN MAR SAN เดินตามหลัง แต่ข้ามไปยังไม่ถึงเกาะกลางถนน ก็ถูกรถยนต์กระบะ พุ่งชนจนเสียชีวิตท่ามกลางสายตาของสามี ซึ่งคาดว่าผู้เสียชีวิตมองไม่เห็นรถที่วิ่งมา
จากการสอบสวน นายคำรณ ปิ่นประวัติ อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 9 ตำบลบางขันแตก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม คนขับรถยนต์กระบะ เล่าว่า ขับรถคันดังกล่าว บรรทุกน้ำมะพร้าวหนักกว่า 1 ตัน มาจากจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อจะนำไปส่งยังโรงงานผลิตน้ำผลไม้ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จนมาถึงที่เกิดเหตุ ผู้ตายได้วิ่งตัดหน้าอย่างกะชั้นชิด ไม่สามารถเบรก หรือหักหลบได้ทัน จึงพุ่งชนอย่างแรง และพาร่างครูดไปใต้ท้องรถประมาณ 5 เมตร เสียชีวิตคาใต้ท้องรถ
เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ได้พยายามที่จะใช้อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อจะยกท้ายรถให้สูงขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถนำศพออกมาได้ ซึ่งก็พบว่ามีสภาพร่างกายแหลกเหลวทั่วร่าง ก่อนนำส่งโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม เพื่อชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนขับรถต้นเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปทำการสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ / ขนิษฐา ชื่นยินดี : ภาพ-ข่าว นครปฐม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: