กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนสมัยพิเศษ ว่าด้วยการแพร่ระบาดขอโควิด-19 ผ่านระบบการประชุมทางไกล เสนอตั้ง ‘กองทุนอาเซียน’ รับมือโควิด-19 พร้อมถอดบทเรียนรับความท้าทายใหม่ ๆ ในอนาคต
วันที่ 14 เมษายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบการประชุมทางไกล
สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทวีความรุนแรงขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน รวมถึงเศรษฐกิจและสังคม สถาบันวิจัยเอกชนชั้นนำ แม็กคินซี่คาดการณ์ว่า อัตราการเติบโตจีดีพีโลกในปีนี้ อาจจะติดลบถึง ร้อยละ 1.5 และหากวิกฤตโควิด-19 ยืดเยื้อต่อไป อาจจะติดลบไปถึงร้อยละ 4.7 ซึ่งสำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP ระบุว่า ประเทศกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบรุนแรงสุด โดยอาจสูญเสียรายได้กว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ข่าวน่าสนใจ:
ประเทศไทยเห็นว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ ตลอดจนหาแนวทางร่วมกันในการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างรอบด้าน ซึ่งไม่มีประเทศใดสามารถต่อสู้กับภัยคุกคามนี้ได้โดยลำพัง จึงเสนอแนวทางที่สำคัญ 5 ประการ ดังนี้
1.อาเซียนต้องร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาแบบองค์รวม พร้อมเสนอให้อาเซียนและประเทศบวกสาม ร่วมกันจัดตั้ง ‘กองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19’ โดยจัดสรรเงินที่มีอยู่แล้วเท่าที่สามารถตกลงกันได้ มาใช้ในการรับมือกับโควิด-19 รวมถึงการจัดซื้อชุดตรวจ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และอุปกรณ์การแพทย์ ตลอดจนเพื่อการศึกษาวิจัยคิดค้นยาและวัคซีน ให้อาเซียนสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว
2.อาเซียนควรต้องร่วมกันอำนวยความสะดวก ด้านการขนส่งสินค้า การผ่านพิธีการศุลกากร และการค้าชายแดนระหว่างกัน เพื่อให้ผู้บริโภคของเราได้เข้าถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ และสินค้าที่จำเป็นในช่วงวิกฤติอย่างเพียงพอและทันท่วงที
3.ควรสนับสนุนให้อาเซียนใช้เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีใหม่ ๆ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคให้มากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีเสนอให้เร่งรัดการเชื่อมโยงการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะการใช้มาตรฐานรหัสคิวอาร์ที่เชื่อมโยงกันได้ ให้การค้าภายในภูมิภาคของเรามีความ คล่องตัวมากขึ้น
4.ขอให้ถอดบทเรียนและประสบการณ์จากการต่อสู้กับโควิด-19 เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับ ความท้าทายต่าง ๆ ที่อาจคุกคามชีวิตของประชาชนในอนาคต โดยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายในและการพึ่งพาตนเองของภูมิภาคในระยะยาวให้มากขึ้น
5.ควรเสริมสร้างบทบาทของเลขาธิการอาเซียน ในการเป็นผู้ประสานงานการให้ความช่วยเหลือให้ครอบคลุมถึงสถานการณ์วิกฤตอื่น ๆ ให้เป็นไปอย่างมีระบบ และทันเหตุการณ์
ตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณเลขาธิการอาเซียน ที่ช่วยจัดการหารือ ระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียนที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดน พร้อมย้ำว่า อาเซียนควรใช้โอกาสนี้มุ่งเสริมสร้างความเข้มแข็งของภูมิภาคนิยมและ พหุภาคีนิยม โดยเน้นความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภายในอาเซียน และกับภาคีภายนอกใน วันนี้เราต้องรอด วันหน้าเราต้องเข้มแข็ง
พร้อมชื่นชมเวียดนาม ในฐานะประธานอาเซียน ที่มีบทบาทในการเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน ในการตอบสนองต่อโควิด-19 อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งกล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เข้าสู่ครอบครัวอาเซียนด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: