เชียงราย-ส่งกลับภูมิลำเนาดูอาการต่อ วอนสังคมอย่ารังเกียจ รอลุ้นผลตรวจอีก 3 รายติดโรคหรือไม่ คอเหล้าเซ็ง ขยายเวลางดขายต่อจนถึงสิ้นเดือน ด้านทีมแพทย์มั่นใจเดินมาถูกทาง และยังตรึงกำลังเตรียมพร้อม
เวลา 15.30 น.วันนี้ ณ ห้องประชุมกาสะลองคำ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย,นายแพทย์ทศเทพ บุญทองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และ นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ของจังหวัดเชียงราย โดยมีเจ้าหน้าที่ และคณะสื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก
นายประจญ ปรัชญ์สกุล กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการแพร่กระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด 19 เข้ามาในพื้นที่ของจังหวัดเชียงราย ได้มีการบูรณาการร่วมทุกฝ่ายมีการตรวจคัดกรองผู้เสี่ยง และผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงรายอยู่ตลอดเวลาเป็นจำนวนมาก โดยตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.-14 เม.ย. 2563 ได้พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ระวังโรคสะสมจำนวน 138 ราย ส่วนใหญ่ไม่พบว่าติดโรคโควิด 19 สามารถกลับบ้านได้แล้ว 134 ราย กำลังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 4 ราย ซึ่งป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจส่วนบน และ กำลังรอผลตรวจผู้เสี่ยงอีก 3 ราย ซึ่ง 2 รายเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ห้องเอ็กซเรย์ 1 ราย และ ห้องแยกโรค 1 ราย ส่วนอีกรายถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลขุนตาล ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบ รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น ซึ่งจะทราบผลในเย็นวันนี้
สำหรับผู้ป่วยยืนยันว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 ของจังหวัดเชียงราย มียอดผู้ป่วยสะสมจำนวน 9 ราย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ขณะนี้รักษาหาย และส่งตัวกลับบ้านแล้วทั้ง 9 ราย โดยจังหวัดเชียงรายเราไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ยืนยันมาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นตันมา
สำหรับมาตรการที่จังหวัดดำเนินการออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันควบคุมโรค และการแพร่กระจายเชื้อ Covid-19 ได้ออกคำสั่งจำนวน 12 ฉบับ และประกาศ จำนวน 10 ฉบับ ในการป้องกันและควบคุมโรค COVID19 โดยยึดหลักปฏิบัติ “ปิด-งด-ลด-ค้นหา-ดูแลรักษา-ติดตาม-ฟื้นฟู” ดังนี้
1. ปิด : สถานบริการตามกฎหมาย สถานประกอบการ บ่อตกคุ้ง/ปลา,เส้นทางรอง 7 เส้นทาง เชื่อมต่อพะเยา และเชียงใหม่,โรงภาพยนตร์ ร้านเกมส์ โต๊ะสนุก ร้านคาราโอเกะ สวนสนุกเครื่องเล่นในอาคาร,สถานที่ท่องเที่ยวเขตอุทยานแห่งชาติ วนอุทยานแห่งชาติ พิพิฑภัณฑสถานแห่งชาติ และห้องสมุดประชาชน สระว่ายน้ำ เป็นตัน
2. งด : การจำหน่ายสุราตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน -16 เมษายน 2563,งดกิจกรรมสังสรรค์เกินกว่า 5 คน,ตลาดถนนคนเดินทุกแห่ง,กิจกรรมรวมคนหมู่มาก ตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป และการเคลื่อนย้ายคนจำนวนมากข้ามจังหวัด
3.ลด : ลดการแพร่เชื้อและป้องกันโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร,ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อพบปะผู้คน,หมั่นล้างมือ
4. ค้นหา : ค้นให้พบจบใน 14 วัน,ร่วมคันหา คัดกรอง ทั้งในชุมชนโดย อสม. ผู้นำในสถานบริการสาธารณสุข สถานที่ราชการ เอกชน บริษัท ห้างร้าน
5.ดูแลรักษา : อย่างเป็นระบบ ได้มาตรฐาน และความเอาใจใส่ โดยโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกับ โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงรวมทั้งโรงพยาบาลเอกชน
6.ติดตาม : หลังจากการรักษาหายแล้ว ติดตามเฝ้าระวังและการสวมหน้ากากอย่างน้อย 1 เดือน
7.ฟื้นฟู : ดูแลสุขภาพจิต ทั้งของผู้ติดเชื้อ ญาติ และประชาชนทั่วไปที่มีภาวะเครียด โดยมีทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจ (MCATT) ในทุกอำเภอและระดับจังหวัด
“ทั้งนี้โดยความร่วมแรงร่วมใจทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงรายที่ให้การสนับสนุน เช่น วัสดุอุปกรณ์หน้ากาก face shied แอลกอฮอล์ จากภาครัฐ ท้องที่ ท้องถิ่น ชุมชน และเอกชน” โดยจัดทำคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย จำนวน 10 ฉบับ และประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย จำนวน 12 ฉบับ และในวันนี้ (14 เมย.63) เวลา 13.30 น, คณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมประชุม เพื่อติดตามรายงานสถานการณ์และผลการดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) หารือแนวทางการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค และพิจารณาขยายระยะเวลาคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายที่ 9/2563 เรื่อง การปิดพื้นที่หรือบริเวณแสดงสินค้าประเภทสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และให้งดจำหน่ายสุรา หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด จากระหว่างวันที่ 12 – 16 เมษายน 2563 ขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563
นอกจากนี้จังหวัดเชียงรายได้เฝ้าระวังเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยง โดยจะดำเนินการดันหาผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19 ให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยและการรักษาเร็ว เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 1,000 ราย รวมทั้งได้ให้คำแนะนำผู้ที่เดินทางมาจาก กทม.และปริมณฑล ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ได้แก่ ควรแยกตนเองอยู่บ้าน 14 วัน งดกิจกรรมรวมกลุ่มสังสรรค์ ไม่รับประทานอาหารและใช้ภาชนะร่วมกับผู้อื่น ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดตัว หมอนผ้าห่ม แก้วน้ำ ช้อนส้อม ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ นาน 20 วินาที หรือแอลกอฮอล์ 0%, หลีกเสี่ยงการพูดคุยใกล้กับผู้อื่น โดยเฉพาะผู้สูงอายุ และผู้ป่วยเรื้อรัง,หากมีไข้และอาการทางเดินหายใจ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่โดยทันที
สำหรับคำแนะนำสำหรับประชาชน ได้ขอความร่วมมือประชาชนทุกคน ตื่นตัว และรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวสารได้ที่เว็บไซต์ “ไทยรู้ สู้โควิด” ทาง Twitter,Facebook,Line official,TikTok และChatBot 1422 ทาง ID : @COVID-19 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ขอฝากเน้นย้ำให้กับประชาชนคนเชียงรายในเรื่องของการ ดูแล ป้องกัน ตนเองจากเชื้อโควิด19 โดย สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกนอกบริเวณบ้าน หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ และเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social distancing สำหรับผู้ที่กลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงและจังหวัดอื่นๆ ขอความร่วมมือให้ท่านกักตนเองอยู่ภายในบ้านเป็นเวลา 14 วัน และงดร่วมงานสังสรรค์ที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกัน การแพร่เชื้อที่จะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดร้ายแรงกว่าเดิม และให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ โดยการงดออกนอกสถานที่ ตั้งแต่เวลา 22.0 – 04.00 น ยกเว้นผู้ที่มีความจำเป็นหรือผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้า ผลผลิตทางการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ หนังสือพิมพ์ น้ำมันเชื้อเพลิง และพัสดุภัณฑ์ โดยจะต้องมีเอกสารรับรองความจำเป็นซึ่งสามารถขอเอกสารได้จากทางอำเภอใกล้บ้าน
ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านยังคงดำเนินการตามมาตรของการป้องกันควบคุมอย่างเคร่งครัดเช่นเดิม เพื่อให้จังหวัดเชียงรายของเราปลอดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 และท้ายที่สุดนี้ขอขอบคุณประชาชนชาวเชียงราย และทุกภาคส่วนที่ให้ความมือและสนับสนุนในการดำเนินงานป้องกันควบคุมและแพร่กระจายเชื้อโรคที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
ทางด้าน นายภาสกร บุญญลักษม์ กล่าวด้วยว่า จังหวัดเชียงรายได้เน้นการป้องกัน โดยมีการปิดทางเข้ารองตามที่ทราบแล้ว พบว่าในแต่ละวันในขณะนี้มีผู้เดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณวันละ 2,000 รายเท่านั้น การรักษาผู้ป่วยให้หายได้นับเป็นความสำเร็จ แต่การควบคุมดูแลให้ปลอดเชื้อนับเป็นความสำเร็จที่มากกว่าที่แท้จริง ฉะนั้นยังคงตรึงมาตรการการป้องกันต่างๆ ไว้ ตามที่ท่านผู้ว่าฯ ได้กล่าวไปเบื้องต้นแล้ว
ทางด้าน นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง กล่าวว่า เรื่องต่อไปที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน จะทำการตรวจคัดกรองผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยทั้ง 9 ราย ที่รักษาตัวและหายดีแล้ว จำนวน 1,000 ราย ตามพื้นที่ที่พบผู้ที่ติดเชื้อทั้ง 9 ราย คือ พื้นที่ อ.เมือง,อ.เทิง และ อ.แม่จัน เพื่อเป็นการติดตามป้องกันอย่างละเอียด อีกด้วย
นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ได้กล่าวถึงความมั่นใจในการดูแลรักษาผู้ป่วย มีความสามารถรักษาได้ถึง 1,000 คนในเวลาเดียวกัน แต่หากเกินกว่านี้คงเกินขีดความสามารถ สำหรับเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่หลายคนเป็นห่วงว่ามีเพียงพอหรือไม่ ทางรัฐบาลได้สนับสนุนมาตามระยะเวลาที่กำหนดไม่ขาดแคลน วันนี้มีความมั่นใจในแนวทางของรัฐบาลและจังหวัดเชียงรายว่าเดินมาถูกทาง วอนประชาชนให้อดทนกันหน่อย เชื่อว่าหลังจากเดือนเมษายนไปแล้วสถานการณ์น่าจะดีขึ้น และทางจังหวัดคงจะมีมาตรการผ่อนคลายไปตามลำดับ ในขณะนี้ขอให้ทุกคนร่วมใจกันป้องกันตนเอง โดยยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และมาตรการที่ทางรัฐบาล และจังหวัดขอความร่วมมืออย่างเคร่งครัดเชื่อว่าเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้โดยเร็ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: