ที่จ.ชลบุรี ดีเดย์! รื้ออาคารริมทะเล “บ้านสุขาวดี” 22 เมษายนนี้ ได้เวลาหลังปล่อยยืดที่สาธารณะ 11 ไร่ทำประโยชน์มานานปี
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
จากกรณีเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักการช่างเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่จากกลุ่มงานกฎหมาย และกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้ลงพื้นที่บริเวณอาคารริมทะเล “บ้านสุขาวดี” ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อทำการติดประกาศหมายผลการอุทธรณ์ และประกาศคำสั่งของเมืองพัทยา กรณีการแก้ไขปัญ หาการบุกรุกที่สาธารณะของ “บ้านสุขาวดี” ซึ่งได้มีการจัดทำประโยชน์ และการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่จำนวน 1 อาคาร ขนาดเล็ก 2 อาคาร บนที่ดินสาธารณะริมทะเลขนาด 11 ไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตและบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นปัญหาเรื้อรังมาเป็นเวลานาน โดยมีการปิดประกาศแจ้งผลการอุท ธรณ์คำสั่งเมืองพัทยากรณีที่ทาง “บ้านสุขาวดี” ในนาม บ.เฮลท์ฟู้ดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการอุทธรณ์จังหวัดชลบุรี ว่าคำสั่งเมืองพัทยาไม่ชอบด้วยกฎหมายสร้างความไม่เป็นธรรมและภาระแก่บริษัทฯ เนื่องจากที่ดินที่งอกจากโฉนดของทางบริษัทฯซึ่งเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ มีผลให้ทางบริษัทฯมีกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินนั้น ขณะที่อาคารทั้งหมดสามารถดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ แต่หนังสืออุทธรณ์ดังกล่าวพบว่าเจ้าของอาคารมีผู้ลงนามในหนังสือคำอุทธรณ์ในการยื่นร้องต่อคณะกรรมการจำนวน 2 รายนั้น หนังสือไม่ปรากฏการประทับตราสำคัญของทางบริษัทฯ แต่อย่างใด จึงถือว่าเป็นการอุทธรณ์ที่ไม่มีผลผูกพันกับบริษัทฯจึงไม่เป็นผู้อุทธรณ์ที่ถูกต้อง และผู้ร้องทั้ง 2 มิใช้ผู้รับคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร วินิจฉัยไม่รับอุทธรณ์ไว้พิจารณา
ข่าวน่าสนใจ:
พร้อมกันนี้ได้ปิดหมายประกาศคำสั่งแบบ ค.7 ที่ลงนามโดยนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เพื่อให้ทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าวภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งหากพ้นกำหนดแล้วไม่มีการดำเนินการใดๆเมืองพัทยาก็จะเข้าทำการรื้อถอนเอง โดยทางบ้านสุขาวดีจะต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน โดยหากไม่มีการชำระเงินก็จะได้นำทรัพย์สินขายทอดตลาดต่อไปนั้น
ล่าสุดวันนี้ (15 เม.ย.) นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รองปลัดเมืองพัทยา รักษาราชการตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยมนายบรรลือ กุลละวนิชย์ รองนายกเมืองพัทยา เข้าร่วมรับฟัง
นายสุธรรม กล่าวว่า “บ้านสุขาวดี” ดำเนินการก่อสร้างอาคารในพื้นที่สาธารณะ และบุกรุกทำประ โยชน์มานาน กรณีนี้มีข้อพิพาทระหว่างบ้านสุขาวดีกับเมืองพัทยามานาน กระทั่งสุดท้ายผลของการอุทธรณ์คำสั่งก็มีการวินิจฉัยไม่รับคำอุทธรณ์ จึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายทันที โดยปิดหมายเพื่อให้รื้อถอนอาคารจำนวน 3 หลัง โดยมี 1 อาคารขนาดใหญ่เป็นอาคารขนาดใหญ่ลักษณะเป็นอาคารโครงเหล็ก 2 ชั้น ขนาด 18.30x 55.30 เมตร จำนวน 1 หลัง และป้ายโครงสร้างเหล็กขนาด 10×13 เมตรจำนวน 2 ป้าย ที่บุกรุกที่สาธารณะประโยชน์ และอาคารขนาดเล็ก 2 อาคารซึ่งเป็นอาคาร ค.ส.ล. ขนาด 35×40 เมตรจำนวน 1 หลัง และอาคาร ค.ส.ล. ขนาด 5×15 เมตรจำนวน 1 หลังบริเวณริมทะเล ที่มีแนวอาคารไม่พ้นระยะกันแนวเขตห่างจากทะเลอีก 2 อาคารขนาดเล็ก ซึ่งได้ปิดหมายคำสั่งไปตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากข้อกำหนดของกฎหมายได้ให้ระยะเวลากับทาง “บ้านสุขาวดี” ดำเนินการตามคำสั่งภายในระยะเวลา 15 วัน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการใดๆเนื่องจากครบกำหนดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา
ดังนั้นจนถึงปัจจุบันที่ทางบ้านสุขาวดียังมีสิทธิ์ในการร้องอุทธรณ์ต่อศาลปกครองต่อ เพื่อขอคำสั่งให้คุ้มครองชั่วคราวในระยะเวลา 30 วันคือหมดอายุในวันที่ 25 เมษายน แต่เมืองพัทยายังไม่ได้รับการประสานหรือคำสั่งจากศาลปกครองในการชะลอหรือคุ้มครองกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้จึงมีการกำหนดแผนงานในการนำกำลังเพื่อเข้าทำการรื้อถอนอาคารดังกล่าวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 เมษายนนี้ โดยส่วนแรกจะมีการเก็บขนสิ่งของ การรื้อพื้นอาคารและโครงสร้างบางส่วนเพื่อไม่ให้สามารถใช้การได้ จากนั้นจะดำเนินการล้อมรั้วพื้นที่ดินสาธารณะทั้ง 11 ไร่ ซึ่งจะเป็นการดำเนินการเบื้องต้น ก่อนจะทำการจัดซื้อจัดจ้างภาคเอนเพื่อเข้ามาทำการรื้อถอนอาคารในส่วนที่เหลือต่อไป
นายสุธรรม กล่าวต่อไปว่าการดำเนินการทั้งหมดเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งนอกจากเรื่องของอาคารแล้วยังมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนัก งาน การบุกรุกและทำประโยชน์ในที่ที่สาธารณะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางละมุง ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมาด้วย รวมไปถึงการส่งหนังสือไปยังจังหวัดชลบุรีในการตรวจสอบว่าทาง “บ้านสุขาวดี” ได้เสนอขออนุญาตในการจัดทำโครงการเทิดพระเกียรติหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการขออนุญาตก็คงไม่มีความผิดอะไร แต่หากดำเนินการโดยพละการก็จะดำเนินคดีกรณีการแอบอ้างเบื้องสูงอีกด้วย
ไม่พลาดทุกกระแสร้อนชลบุรี-พัทยา กดรับข่าว “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: