ชาวบ้านสุดระอา แรงงานพม่าระนองไม่ใส่แมสก์เกลื่อนเมืองจี้จัดการด่วน
ระนอง-ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดระนอง รายงานจากการที่เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของประชาชนในเขตพื้นที่ จ.ระนองต่อการให้ความร่วมมือกับมาตรการควบคุมโรคติดต่อของ จ.ระนอง ปรากฏว่าพบว่าประชาชนกว่าร้อยละ 95 ให้ความร่วมมือ และร่วมกันปฏิบัติตนตามมาตรการที่กำหนด โดยเฉพาะการสวมใส่หน้ากากอนามัย ในขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งร้องเรียนว่าพบเห็นว่ากลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวพม่า รวมถึงผู้ติดตามบางส่วนไม่ให้ความร่วมมือ ไม่สนใจสวมใส่หน้ากากอนามัยทำให้เป็นที่วิตก หวาดกลัว และระอาแก่ชาวบ้านเนื่องจากหวั่นเกรงว่าแรงงานพม่าจะเป็นตัวนำเชื้อโรคมาแพร่กระจายสู่คนระนอง
ข่าวน่าสนใจ:
จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการอย่างจริงจังกับแรงงานพม่า และผู้ติดตามที่ละเลยเพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือ จากเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบว่าบริเวณบ้านเขานางหงษ์ ต.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง ซึ่งมีท่าเรือขนส่งสินค้าหลายท่าเรือ ที่มีแรงงานพม่าทำงานเป็นจำนวนมาก พบว่ามีแรงงานหญิงกลุ่มหนึ่งประมาณ 10 คนที่เดินทางไปทำงานในช่วงเช้า และกลับตอนเย็นไม่มีการสวมใส่หน้ากากอนามัยแต่ประการใด เดินไป-กลับที่พักผ่านถนนสายหลักยาวประมาณ 1 กม. ในขณะที่ชาวบ้านในระนองที่ขับขี่รถผ่านต่างแปลกใจ ที่กลุ่มแรงงานดังกล่าวไม่สนใจทำตามข้อปฏิบัติตามมาตรการที่จังหวัดกำหนด ซึ่งเป็นนี้มาทุกวัน เช่นดียวกับแรงงานพม่าที่ทำงานในห้องเย็นต่างๆ ที่ยังพบเห็นไม่มีหน้ากากอนามัยสวมใส่เช่นกัน ส่วนผู้ติดตามชาวพม่าที่อาศัยตามชุมชนต่างๆ ก็มักละเลยไม่สวมใส่หน้ากากขณะออกจากบ้านมาซื้อของตามร้านค้าต่างๆ จึงต้องการให้ จนท.ที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการกับแรงงานกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งนายจ้างที่ปล่อยปละละเลย
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้สั่งการฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองระดับจังหวัด ลงไปถึงท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งกลไกชุมชนใน เขต กทม. ให้ความสำคัญร่วมกันแบ่งมอบกระจายลงไปทำหน้าที่ตรวจตราดูแลและทำความเข้าใจกับประชาชนในทุกพื้นที่มากขึ้น หลังจากยังพบเห็นการปฏิบัติที่ละเลยต่อกฎหมายหลายพื้นที่ เป็นเหตุของความหวั่นวิตกกับชุมชน เช่น การรวมกลุ่มเล่นพนัน เสพสุรา ยาเสพติด สิ่งมึนเมาจนขาดสติ หรือฝ่าฝืนจัดกิจกรรมโดยไม่รับผิดชอบสังคมอื่นๆ และขาดมาตรการป้องกันตนเอง ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อการกระจายแพร่เชื้อ COVID – 19 ขยายเป็นวงกว้างในชุมช
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: