สระแก้ว – หมู่บ้านคนพิการขาขาดชายแดนไทย-กัมพูชา และภารกิจเสี่ยงตายเพื่อมนุษยธรรมของหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด
ผลพวงการสู้รบในอดีตกว่า 40 ปี และสงครามตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ คาดการณ์ว่า มีกับระเบิดฝังอยู่ในผืนแผ่นดินไทยปัจจุบันมากกว่า 1 ล้านลูก ครอบคลุมพื้นที่ 5,000,000 ไร่ ใน 48 อำเภอ 18 จังหวัดของประเทศไทยนั้น อำเภอตามแนวชายแดนจังหวัดสระแก้ว ทั้ง 4 อำเภอ จึงกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงของประชาชนที่อาศัยและดำรงชีวิตอยู่ตามแนวชายแดน ที่มีโอกาสเหยียบกับระเบิดได้ทุกเวลา
อานุภาพของแรงระเบิด… หลังสิ้นเสียงสัญญาณของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษย์ธรรมที่ 1 กองกำลังบูรพา ที่ให้สัญญาณเพื่อกดปุ่มทำลายวัตถุระเบิด ที่เก็บกู้มาจากสนามทุ่นระเบิดในพื้นที่ มีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้ขาหรืออวัยวะ ของผู้ที่ไปเหยียบกับระเบิด เละและขาดออกจากกันได้ทันที ทำให้ชีวิตผู้ประสบเหตุต้องเปลี่ยนไปเป็นผู้พิการตลอดชีวิต เหมือนดังชาวบ้านที่ ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว 6-7 ครอบครัว ที่พิการขาขาดอันเนื่องมาจากผลพวกของสงครามที่ผ่านมาอย่างไม่มีทางเลือก
ข่าวน่าสนใจ:
- เอเย่นต์ยาบ้าร้องไห้โฮ หลังชุด ฉก.ปกครองบุกจับ ตรวจพบของกลางกลับโทษภรรยา ไม่ยอมซุกซ่อนยาเสพติดให้ดี จ.สระแก้ว
- งูหลามตัวใหญ่เข้าบ้าน แจ้งกู้ภัยฯช่วยจับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
- ส่งตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขัง คดีหนุ่ม 20 ปี ถูกยิงดับบริเวณคูกันช้าง อ้างปืนลั่น จ.สระแก้ว
- สยบข่าวลือ สจ.ธรรมชาติ หนีซุกเขมร หลังถูกทนายดังแฉเอี่ยวรีดเว็บพนัน
นางสมจิตร เนเยือด อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 ม.1 ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา ถูกระเบิดระหว่างสงครามเขมรแดงเมื่อปี 2520 จนขาขวาขาดจนถึงท่อนบน บอกว่า ทุกวันนี้อยู่อย่างยากลำบากตลอด 40 ปี ทุกวันนี้ได้รับการช่วยเหลือเงินสำหรับผู้พิการเพียงเดือนละ 800 บาทเท่านั้น ส่วนเพื่อนบ้านอย่าง นายสมศักดิ์ หานแอม อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 ม.1 ต.ทัพไทย ก็ตกเป็นเหยื่อกับระเบิด ระหว่างออกหาของป่าเมื่อหลายสิบปีก่อน จนขาด้านซ้ายขาด ต้องใส่ขาเทียมท่อนล่าง จึงสามารถเดินไป-มาได้
เช่นเดียวกับ นายสุรศักดิ์ พรหมสู คนในหมู่บ้านนี้รายล่าสุด ก็ต้องกลายเป็นผู้ประสพภัยจากกับระเบิดตามแนวชาวแดนอีกราย หลังออกไปหาเก็บผักอีรอกหรือกระบุกป่า และเหยียบทุ่นระเบิดชนิดสังหารบุคคล ชนิดระเบิด PMN ทำให้ขาขวาท่อนล่างขาด เหตุเกิดเมื่อ 14 เม.ย.61 ที่ผ่านมา บริเวณพื้นที่ป่าข้างถนนศรีเพ็ญ ฝั่งติดกับถนนแนวชาวแดนไทย-กัมพูชา เล่าว่า มีลูก 4 คนและหลาน 2 คน จึงจำเป็นต้องออกไปทำงานเพื่อหารายได้ ซึ่งวันนั้นหลังเหยียบระเบิด ก็พยายามกลั้นใจคลานออกมาจนถึงแนวถนนศรีเพ็ญ เพื่อขอความช่วยเหลือจาก ตชด. ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า จุดใกล้เคียงที่ตนเองคลานออกมา เมื่อเข้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีลูกระเบิดวางอยู่โดยรอบอีกถึง 6 ลูกด้วยกัน แต่โชคดีที่ไม่คลานไปทับระเบิดซ้ำอีก ทุกวันนี้กลายเป็นคนพิการ ภรรยาต้องมารับภาระหาเลี้ยงครอบครัว
ร.ท.เชี่ยวชาญ แสงแก้ว หัวหน้าชุดแจ้งเตือนและให้ความรู้ หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่ 1 นำเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้ระเบิดไปตรวจสอบเส้นทางพื้นที่แนวชายแดน ตลอดแนวถนนศรีเพ็ญ ตั้งแต่ อ.ตาพระยา โคกสูง อรัญประเทศ ไปจนถึง อ.คลองหาด พบว่า เจ้าหน้าที่ต้องนำป้ายหัวกะโหลกมาติดแจ้งเตือนระเบิด ให้ชาวบ้านที่ผ่านไปในบริเวณจุดที่มีการตรวจพบทุ่นระเบิดตลอดแนวระมัดระวัง ซึ่งจากข้อมูลที่มีการสำรวจและทำแนวจีพีเอสไว้ในขณะนี้ มีพื้นที่ที่ต้องกู้ระเบิดอีกจำนวนมากตลอดแนวชายแดน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบพื้นที่เก็บกู้สนามทุ่นระเบิด บริเวณแนวชายแดนบ้านทับทิมสยาม 05 ต.คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งมีสนามทุ่นระเบิดหนาแน่นที่สุดพื้นที่หนึ่ง พบว่า จุดที่เป็นทางขึ้นเขา ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 2 กม. และถูกระบุว่า เป็นเส้นทางผ่านไปยังค่ายของเขมรแดงและศูนย์อพยพของผู้ลี้ภัยสงครามในอดีต มีทุนระเบิดฝังไว้หนาแน่นถึง 119 ลูก ในบริเวณเดียว และพื้นที่อื่นใกล้เคียงเจ้าหน้าที่เตรียมการสำรวจเพิ่มเติมและเฝ้าระวัง ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป เนื่องจากระหว่างการเข้าพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบลูกระเบิดปืน ค.60 ในบริเวณใกล้เคียงแปลงพืชไร่ ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าเก็บกู้ด้วย
พ.อ.สมพร โตภาพ รองผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ด้านมนุษย์ธรรมที่ 1 ทำการแทนผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิด ด้านมนุษย์ธรรมที่ 1 กล่าวว่า ทางหน่วยดำเนินการภายใต้การบัญชาการของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กองบัญชาการกองทัพไทย ตามสนธิสัญญาออตาว้า ที่ไทยได้ไปลงนามตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2542 ปัจจุบัน นปท.1 จัดกำลังจากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ โดยมีภารกิจแจ้งเตือนและให้ความรู้กับประชาชนและกำลังพลที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน เพื่อให้มีความรู้และได้เห็นถึงอันตรายที่เกิดจากวัตถุระเบิดที่หลงเหลืออยู่ตามแนวชายแดน
พ.อ.สมพร กล่าวอีกว่า ทางหน่วยยังมีภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน โดยร่วมกับหน่วยราชการในพื้นที่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนขาเทียมให้กับผู้ประสบภัยและเข้าถึงสิทธิ์ผู้พิการ ซึ่งความสำเร็จในการปฏิบัติงานซึ่งได้รับความร่วมมืออย่างดี และให้ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง ทำให้ลดการสูญเสียอันเกิดจากวัตถุระเบิดที่หลงเหลืออยู่ตามแนวชายแดนให้กับประชาชนและกำลังทหาร ตำรวจที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน รวมทั้งประชาชนมีพื้นที่ทำกินมากขึ้นด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: