เชียงราย-ยกขบวนสุดยอดกาแฟดังหลากหลายแบรนด์จากยอดดอยสูงของเชียงราย แหล่งปลูกกาแฟอราบิก้าที่ดีที่สุดของไทย เสิร์ฟตรงถึงผู้บริโภคใจกลางกรุง ในงาน “Chiangrai ASEAN Coffee&Tea 2018” ณ ศูนย์การค้า ดิเอ็มควอเทียร์ กรุงเทพฯ
เวลา 14.30 น. วันนี้ (13 กย.61) ณ ห้องดอยตอง โรงแรม เดอะ ริเวอรี่ บาย กะตะธานี จังหวัดเชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน “Chiangrai ASEAN Coffee&Tea 2018” โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น พร้อมด้วย นายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย นายนาวิน อินทจักร ผอ.ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูง จังหวัดเชียงราย นายพรศักดิ์ นันตะรัตน์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร จังหวัดเชียงราย นายรณชัย ไชยยะ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสาระสนเทศ นายธีรวัฒน์ วงศ์วรทัต นายกสมาคมกาแฟและชาไทย ร่วมแถลงด้วย โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการแขกผู้มีเกียรติ ประชาชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมเป็นจำนวนมากนายประจญ ปรัชญ์สกุล กล่าวว่า จังหวัดเชียงรายถือได้ว่าเป็นแหล่งผลิตชาและกาแฟที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย โดยเฉพาะกาแฟ ซึ่งเชียงรายเป็นแหล่งปลูกกาแฟอราบิก้า ที่มีพื้นที่มากที่สุด และยังเป็นแหล่งปลูกที่ดีที่สุดในประเทศด้วย โดยทางจังหวัดได้ให้ความสำคัญและกำหนดให้พืชกาแฟและชาเป็นพืชยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของจังหวัด ที่ผ่านมาได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพของผู้ผลิตมาอย่างต่อเนื่อง และเห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งการจัดงาน “Chiangrai ASEAN Coffee&Tea 2018” ถือได้ว่าเป็นภาพต่อเนื่องของงาน “Chiangrai ASEAN Coffee&Tea Festivel 2018”ซึ่งเป็นงานสำคัญประจำปีของจังหวัดซึ่งเพิ่งจัดไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ตลาดกาแฟ และชาของจังหวัดเชียงราย ให้มีความต่อเนื่องและขยายเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง จึงได้จัดงานดังกล่าวในครั้งนี้ขึ้นอีกครั้งที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นแหล่งบริโภคกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 21-23 กันยายน 2561 ณ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคกาแฟเช้าปรุงรวมถึงนักท่องเที่ยวในย่านดังกล่าวเป็นจำนวนมากทางด้านนายสุขชัย เจรียงประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงรายมีพื้นที่ปลูกกาแฟสายพันธุ์อราบิก้ามากที่สุดในประเทศสูงถึงประมาณ 38,000 ไร่ สร้างผลผลิตได้สูงถึงประมาณ 4,355 ตัน ส่วนพื้นที่ปลูกชามีอยู่ประมาณ 53,436 ไร่ ผลผลิตประมาณ 32,010 ตัน โดยกาแฟอราบิก้าของจังหวัดเชียงรายถือว่ามีจุดเด่นที่เป็นข้อได้เปรียบกว่าแหล่งเพาะปลูกอื่นๆ ของไทย เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมที่ดี พื้นที่ปลูกอยู่ในบริเวณแนวเส้นศูนย์สูตรขึ้นไปทางเหนือไม่เกินเส้น tropic of cencer หรือ latitude ที่ 23.5 องศาเหนือ ลงมาทางทิศใต้ไม่เกินเส้น tropic of cencer หรือ latitude ที่ 23.5 องศาใต้ ซึ่งจัดเป็นพื้นที่เขตร้อนที่มีสภาพอากาศร้อน มีฝนตกชุก เป็นแนวบริเวณที่เรียกกันว่า “เข็มขัดกาแฟ หรือ Bean Bele” ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกกาแฟของโลก ประกอบกับเกษตรกรได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างต่อเนื่องทำให้มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทั้งในด้านการปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปกาแฟอย่างครบวงจร ส่งผลให้กาแฟของจังหวัดเชียงรายมีคุณภาพสูงและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีกลิ่นหอม รสชาติกลมกล่อมจึอ่ะรสเปรี้ยวนิดๆ ดื่มแล้วรู้สึกชุ่มคอและมีปริมาณสารคาเฟ่อีนต่ำ ซึ่งต่างจากกาแฟในแหล่งเพาะปลูกอื่นๆ ด้วยเอกลักษณ์ตามที่กล่าวทำให้กาแฟดอยช้าง และกาแฟดอยตุง ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ Gl ในระดับโลก ซึ่งกิจกรรมภายในงาน ที่นอกจากจะมีการนำผลิตภัณฑ์กาแฟ และชา ซึ่งเป็นที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงรายมาจำหน่ายโดยตรงถึงมือผู้บริโภคแล้ว ยังมีนิทรรศการให้ความรู้ กิจกรรมส่งเสริมการตลาดอีกมากมาย อาทิ การสาธิตการชงกาแฟและชาติในรูปแบบต่างๆ รวมถึง การนำกาแฟในแหล่งผลิต Bean Belt มาให้ผู้บริโภคได้ชิมกันภายในงานฟรี อีกด้วยการจัดงาน “Chiangrai ASEAN Coffee&Tea 2018” ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการแสดงศักยภาพกาแฟของจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นกาแฟคุณภาพระดับโลกแล้ว ยังเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาที่คุณและพระราชกรณียกิจด้านการเกษตรของ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ซึ่งได้พระราชทานพระราชดำริให้ส่งเสริมการปลูกกาแฟ โดยได้พระราชทานต้นกาแฟต้นแรกให้ชาวเขานำไปปลูก จนแพร่กระจายไปทั่วภาคเหนือ สร้างความมั่นคงในอาชีพแก่ราษฎรชาวเขามาจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นการเทิดพระเกียรติสืบสานพระราชเสาวนีย์ของ “สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ที่ส่งให้ส่งเสริมการปลูกกาแฟในป่าชุมชนเพื่อสร้างรายได้แก่ราษฎรในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ลดปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและการทำไร่เลื่อนลอย อีกด้วยสำหรับกิจกรรมในการแถลงข่าวในครั้งนี้ ได้มีการออกบูธสาธิตการชงชาไทย โดยแชมป์ชงชาไทยระดับประเทศ ถ้วยรางวัลพระราชทาน “ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี รวมทั้ง การเปิดให้ชิมกาแฟชนะเลิศอันดับหนึ่ง ของประเทศไทย ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และมีบูทรสาธิตการชงชา-กาแฟ ในรูปแบบต่างๆ ซึ่งได้สร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้แก่ผู้เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าวในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ที่สนใจเข้าเที่ยวชมงาน สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ “สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงราย” โทร.0-5315-2685
ข่าวโดย : เพทาย บ้านชี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: