ที่จ.ชลบุรี สาวใหญ่เปิดภาพวงจรปิดขณะถูกทำร้ายร่างกาย หลังมีปัญหาข้างบ้าน ด้านคู่กรณีโต้กลับ ถูกถ่มน้ำลายใส่ 3 ครั้ง จนทนไม่ไหว
แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ชลบุรี-พัทยา กับ “พัทยานิวส์”ผ่านไลน์ได้แล้ววันนี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นางกัญญา แซ่เบ๊ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่369/69 ม.3 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพร้านนวด เพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นร้านของตนเองมีลักษณะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ภายซอยประปา ศรีราชา เลขที่ 102/175 ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วตนเองได้เกิดมีปากเสียงอย่างรุนแรงกับเจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งอยู่ติดร้านนวดของตนเอง ก่อนที่จะตนเองจะถูกทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้
นางกัญญา กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพร้านของตน ซึ่งอยู่ระหว่างการบำรุงร้าน โดยก่อนหน้านี้ตนเองได้มีปากเสียงกับคู่กรณี ซึ่งเป็นผัวเมีย เจ้าของร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมู เนื่องจากต้นไม้ที่หน้าร้านตนเอง ไปพาดพิงกับร้านเค้า ตนเองก็เข้าไปพูดคุยดีๆ แล้ว แต่ก็ถูกด่ากลับมาด้วยคำหยาบคาย ทั้ง อีๆ ดอกๆ ทองๆ ส่งผลให้ตนเองกับบ้านหลังดังกล่าว มีปากเสียงกันอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ตนเองได้เดินทางไปที่ร้านนวด แล้วตรวจสอบสภาพปรับปรุงร้าน หลังจากนั้นตนเองก็ได้เดินเข้าไปพูดคุยดีๆ กับทางร้านขายก๋วยเตี๋ยว เนื่องจากตนเองได้ยินเสียงจากคนในบริเวณ ว่าร้านขายก๋วยเตี๋ยวด่าตนเองเสียๆ หายๆ ซึ่งตนเองก็เดินเข้าไปพูดคุยกับคู่กรณีดีๆ เนื่องจากต้องการจบปัญหา หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนเองก็ได้นำหลักฐานเอกสาร เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด และใบรับรองแพทย์ ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ พ.ต.ท.อมรวัฒน์ ปานดี สว.(สอบสวน) สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ในขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ที่บริเวณร้านขายก๋วยเตี๋ยว เลขที่ 356/7 ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบนายอนุสรณ์ กมลพวงพันธุ์ อายุ 39 ปี และ น.ส.จินดารัตน์ ว่องชิงชัย อายุ 39 ปี สองผัวเมีย คู่กรณีดังกล่าว เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องราวที่เกิดเหตุ เป็นหนังคนละม้วนกับคู่กรณีที่กล่าวอ้างไว้ โดยก่อนหน้านี้ ก็มีปัญหากันมาอยู่แล้ว แต่ครอบครัวตนเองก็บอกคู่กรณีไปอยู่แล้วว่าต่างคน ต่างอยู่ คุณจะทำอะไรก็เรื่องของคุณ ต่อมาทางร้านนวด ได้ติดตั้งกำแพงกั้นขึ้นมา ระหว่างร้านตนเองกับร้านเค้า อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ก็น่าจะจบลง ถ้าต่างคนต่างอยู่ แต่ในเวลาที่คู่กรณีมาที่ร้าน ก็จะมีการตระโกนด่าด้วยคำหยาบคายลอยๆ แถมยังฉีดน้ำใส่กำแพงที่กั้น จนกระเด็นใส่ลูกค้าตนเอง แต่ครอบครัวตนเองก็ไม่สนใจ จนกระทั่งมาล่าสุด คู่กรณีได้เดินทางที่บริเวณหน้าร้าน แล้วตะโกนด่า เสียๆ หายๆ ว่าตนเองไปด่าคู่กรณี อีกทั้งยังทำท่าที ถ่มน้ำลาย ใส่ครอบครัวตนเอง และยังระบุอีกว่า “กูเป็นโควิด กูจะมาแพร่เชื้อให้พวกมึง” ซึ่งครั้งแรกก็ไม่ว่ากัน ตนก็บอกกลับไปว่าต่างคน ต่างอยู่เถอะ แต่มีครั้ง 2 และครั้ง 3 เข้ามาถ่มน้ำลายถึงหน้าตนเอง ส่งผลให้ตนเองทนไม่ไว้ ลุกขึ้นเข้าไปทำร้ายร่ายกายคู่กรณี
นายอนุสรณ์ กมลพวงพันธุ์ อายุ 39 ปี กล่าวต่อว่า ในขณะเกิดเหตุ ตนเองไม่ได้เข้าทำร้ายร่างกายคู่กรณี ปล่อยให้เค้าทั้งสองสู้กันเอง แต่ในภาพที่เห็นเข้าไปนั้น ตนเองยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปทำร้ายร่างกาย เพียงแต่เข้าไปแย่งกรรไกร จากมือคู่กรณีออกมา เพื่อให้ทั้งคู่สู้กันด้วยมือ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวตนเองก็ยอมรับว่าทำร้ายร่างกายจริง เพียงแต่ทนไม่ไหวที่คู่กรณีเข้ามาถ่มน้ำลายใส่หน้าตนเอง
เบื้องต้น พ.ต.ท.อมรวัฒน์ ปานดี สว.(สอบสวน) สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เตรียมนัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายสอบปากคำเพิ่มเติม ที่ สภ.ศรีราชา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
